หลายคนอาจเข้าใจว่าสิ่งที่ทำให้เกิด ‘มลพิษ’ จะออกมาจากท่อไอเสียของรถยนต์เมื่อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซล แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้ว่าการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะมี 2 รูปแบบหลักได้แก่มลพิษจากคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษทางอากาศ
รถยนต์ที่ใช้น้ำมันก่อให้เกิดมลพิษอย่างไร
ขอเกริ่นก่อนว่า การปล่อยมลพิษทั้งของยานพาหนะและคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสาเหตุของก๊าซเรือนกระจกหลัก ๆ ดังนั้นการปล่อยก๊าซเหล่านี้จึงถูกเรียกว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือ GHG แต่คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไม่เป็นอันตรายในตัวของมันเอง แท้จริงแล้วพืชและสัตว์จำเป็นต้องใช้เพื่อมีชีวิตอยู่ เราเรียกการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มาจากการเผาไหม้ของน้ำมันเบนซินและเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่น ๆ ว่า “มลพิษ”
ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะเป็นแหล่งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่ใหญ่ที่สุด (56% ทั่วประเทศและมากถึง 95% ในเมือง) และไนโตรเจนออกไซด์ (45% ) ภาคการขนส่งของรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบ 80%ของมลพิษไนโตรเจนออกไซด์ และ 80% ของมลพิษที่ทำให้เกิดหมอกควัน
รถยนต์เบนซิลรุ่นใหม่สะอาดกว่ารถยนต์รุ่นเก่าจริงหรือไม่
ด้วยกฎหมาย Clean Air Act ของสหรัฐอเมริกาและข้อบังคับอื่น ๆ ทำให้ยานพาหนะรุ่นใหม่ปล่อยมลพิษทางอากาศได้น้อยกว่ารถยนต์รุ่นเก่า ๆ แต่ในแง่ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำมันเบนซินทุกแกลลอนยังคงส่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 20 ปอนด์สู่ชั้นบรรยากาศ และนั่นไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาจริง ๆ
เนื่องจากรถยนต์สมัยใหม่มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นด้วยมาตรฐานการประหยัดเชื้อเพลิงที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งยานพาหนะเหล่านี้จึงปล่อยมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ได้น้อยลงต่อการขับเคลื่อน 1 ไมล์ แต่รถยนต์อีกหลายคันยังคงต้องขับในระยะทางที่ไกลและนาน (ส่วนใหญ่จะเป็นรถกระบะหรือรถ SUV) ดังนั้นปริมาณน้ำมันเบนซินที่เราเผาจึงไม่ลดลง
การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร?
การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะเป็นแหล่งสำคัญของเบนซินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเม็ดเลือดขาว เกิดภาวะที่ผิดปกติของเลือด และภาวะมีบุตรยาก เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหอบหืด โรคหัวใจและปอด โรคสมองเสื่อม และมะเร็งโดยเฉพาะในเด็กและผู้ที่ อาศัยอยู่ใกล้ถนน ที่พลุกพล่านหรือเดินทางไกลการอาศัยอยู่ใกล้ถนนที่พลุกพล่านมีความเชื่อมโยงกับพัฒนาการล่าช้าของเด็กและความผิดปกติในการตั้งครรภ์ การปล่อยมลพิษจากยานพาหนะมีความเชื่อมโยงกับอาการป่วยทางจิตรวมถึงความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าอีกด้วย
ในสหรัฐอเมริกาผู้คนจำนวน 17,000 ถึง 20,000 คนที่เสียชีวิตในแต่ละปีจากมลพิษในรถยนต์ และ 1 ใน 3 ต้องเผชิญกับมลพิษที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งคนผิวสีได้รับผลกระทบอย่างไม่สมเหตุสมผล โดยได้สูดดมมลพิษทางอากาศจากรถยนต์และรถบรรทุกมากกว่าคนผิวขาวในบางภูมิภาคโดยเฉลี่ยถึง 66%
How to ลดมลพิษในรถยนต์
เพื่อลดมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์และมลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ เราจำเป็นต้องลดปริมาณน้ำมันเบนซินและดีเซลที่เราใช้ สำหรับผู้ที่ใช้น้ำมันเบนซินปริมาณมาก การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยลดการใช้น้ำมันเบนซินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
EVS สะอาดกว่ารถยนต์ที่ใช้แก๊สจริงมั้ย
พลังไฟฟ้าเริ่มสะอาดขึ้นนทุก ๆ ปี เนื่องจากไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากแหล่งพลังงานทดแทนที่สะอาด เช่น ดวงอาทิตย์และลม และพลังงานหมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันพร้อมทั้งที่เก็บแบตเตอรี่ก็มีราคาถูกกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล
โดยจากข้อมูลของกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯทั้ง 50 รัฐ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อปีจากรถยนต์ไฟฟ้ายังน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้แก๊สอีกด้วย โดยตลอดอายุการใช้งานของรถ การปล่อยไอเสียทั้งหมดขึ้นอยู่กับปริมาณการขับขี่ สำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน วันที่รถออกจากจุดจำหน่ายคือวันที่รถนั้นสะอาดที่สุด แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า วันที่ออกจากจุดจำหน่ายถือว่าเป็นวันที่สกปรกที่สุด และหากไม่เคยขับเลยตลอดอายุการใช้งาน รถยนต์ไฟฟ้านั้นก็จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่มากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ยิ่งขับรถมากเท่าไหร่ EV ก็จะสะอาดกว่ารถที่ใช้แก๊สมากขึ้นเท่านั้น ” Crossover ” โดยทั่วไปสำหรับ EV คือ 15,000 ถึง 20,000 ไมล์
Cr.coltura