fbpx

ราคาชุดแบตเตอรี่ EV อาจลดครึ่งหนึ่งภายในปี 2026: ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

การศึกษาล่าสุดจากสถาบันวิจัยชั้นนำได้เผยว่า ราคาของชุดแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจลดลงได้ถึง 50% ภายในปี 2026 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลสำคัญต่อการขยายตัวของตลาด EV และอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาของชุดแบตเตอรี่ยังคงเป็นอุปสรรคหลักในการเลือกซื้อรถ EV แต่การลดราคานี้จะทำให้รถ EV กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับผู้บริโภค

ปัจจัยที่ทำให้ราคาชุดแบตเตอรี่ลดลง

การศึกษานี้เน้นย้ำถึงปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อการลดราคาชุดแบตเตอรี่:

  1. เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่: การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ โดยเฉพาะการใช้งานวัสดุที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น การใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าดีขึ้นและราคาถูกกว่า เช่น โซเดียม (Na) แทนที่ลิเธียม (Li) ซึ่งทำให้ลดต้นทุนในการผลิตได้

  2. การปรับปรุงกระบวนการผลิต: การใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ที่ช่วยให้กระบวนการผลิตแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดของเสีย และเพิ่มผลผลิต ทำให้สามารถผลิตแบตเตอรี่ในราคาที่ต่ำลงได้

  3. ความต้องการที่เพิ่มขึ้น: ตลาด EV ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เมื่อการผลิตเพิ่มขึ้น ก็มักจะทำให้ราคาลดลงตามกลไกของเศรษฐศาสตร์

  4. การสนับสนุนจากรัฐบาล: หลายประเทศได้สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสะอาดด้วยการให้เงินทุนและนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า ซึ่งทำให้การลงทุนในรถ EV มีความน่าสนใจมากขึ้น

ผลกระทบต่อการขยายตลาด EV

การลดราคาชุดแบตเตอรี่ในระยะเวลาอันใกล้จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรม EV อย่างมาก เพราะต้นทุนของชุดแบตเตอรี่ถือเป็นส่วนใหญ่ของต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การลดลงของราคาจะทำให้ราคาของรถ EV รวมถูกลง ส่งผลให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น

การที่ราคาชุดแบตเตอรี่ลดลงสามารถทำให้:

  • ผู้บริโภคเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น: ราคาของ EV ที่ลดลงจะทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อได้ง่ายขึ้น และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
  • การขยายตัวของสถานีชาร์จไฟฟ้า: เมื่อมีการขายรถ EV มากขึ้น จะเป็นแรงผลักดันให้มีการขยายโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ EV สะดวกในการใช้งาน
  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิต: เมื่อราคาลดลง บริษัทผู้ผลิต EV สามารถลดต้นทุนและเพิ่มกำไร หรือสามารถทำราคาขายที่แข่งขันได้มากขึ้น

การสนับสนุนจากรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงในนโยบาย

หลายประเทศทั่วโลกได้ออกนโยบายและมาตรการที่สนับสนุนการขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาด ซึ่งรวมถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและจีนที่มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

รัฐบาลหลายประเทศให้การสนับสนุนทางการเงินและแรงจูงใจที่สำคัญ เช่น:

  • การให้เงินอุดหนุนหรือสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับผู้ที่ซื้อรถ EV
  • การส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • มาตรการลดภาษีและค่าธรรมเนียม สำหรับผู้ผลิตและผู้ใช้งาน EV เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มกำลังซื้อ

แนวโน้มในอนาคต

การลดราคาชุดแบตเตอรี่จะไม่เพียงแต่ทำให้รถ EV เป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แต่ยังช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบพลังงานสะอาด (Clean Energy) ซึ่งเป็นการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและการลดมลพิษทางอากาศ การเติบโตของตลาด EV ยังมีแนวโน้มที่จะช่วยส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีพลังงานและการขนส่งที่ยั่งยืน

สรุป

การศึกษาในครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่า ราคาชุดแบตเตอรี่จะลดลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2026 ซึ่งจะทำให้การเป็นเจ้าของ EV ง่ายและคุ้มค่ามากขึ้น การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการสนับสนุนจากภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นตลาดนี้อย่างต่อเนื่อง

 

 

 

Cr.ev

บทความที่น่าสนใจ

Chevrolet Camaro คันสุดท้ายออกจากสายการผลิตแล้ว สิ้นสุดยุคเจน 6 อย่างเป็นทางการ

idiot

Haval Raptor ว่าที่เอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่จาก GWM วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนไกลสุด 145 กม.

idiot

เปิดตัว BMW 745Le xDrive M Sport และ 730Ld sDrive M Sport ใหม่ เริ่มต้น 6.139 ล้านบาท

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy