Praga Bohema คืออะไร?
นี่คือไฮเปอร์คาร์น้ำหนักเบาสุดขีดจากประเทศเช็ก สร้างมาเพื่อสนามแข่งโดยเฉพาะ แต่สามารถวิ่งบนถนนได้จริง! ใช้เครื่องยนต์จากญี่ปุ่น จูนโดยทีมสหราชอาณาจักร และไม่สนใจความหรูหราใด ๆ ทั้งสิ้น—ไม่มีระบบไฮบริด ไม่มีเทคโนโลยีดิจิทัลมากมาย และไม่มีแม้แต่ที่วางแก้ว
ราคาเริ่มต้น
ประมาณ 1.44 ล้านปอนด์ (ราว 65 ล้านบาท)
สิ่งที่ Bohema ให้คือประสบการณ์การขับขี่สุดบริสุทธิ์ ด้วยน้ำหนักไม่ถึง 1 ตัน และพลัง 700 แรงม้า จากเครื่อง V6 ทวินเทอร์โบขนาด 3.8 ลิตร แบบเดียวกับที่ใช้ใน Nissan GT-R (รหัส VR38DETT) แต่จูนโดย Litchfield เพื่อความเชื่อถือได้ระดับสุด
จุดเด่นของ Praga Bohema
-
น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ: 982 กก.
-
กำลังเครื่องยนต์: 700 แรงม้า
-
0-100 กม./ชม.: 3.3 วินาที
-
ความเร็วสูงสุด: เกิน 300 กม./ชม.
-
แรงกดอากาศ: สูงสุดถึง 950 กก. ที่ความเร็ว 250 กม./ชม.
-
โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน
-
เกียร์ Hewland แบบ sequential 6 สปีด (ไม่มีคลัตช์คู่)
ทำไมเครื่อง GT-R ถึงน่าสนใจ?
แม้จะไม่ใช่เครื่องระดับ “มหาเทพ” แต่เครื่อง VR38DETT จาก GT-R เป็นที่รู้จักในแง่ของความทนทานและการโมดิฟาย ซึ่ง Nissan ไม่ค่อยเปิดให้ใช้กับโปรเจกต์ภายนอก และ Praga คือหนึ่งในไม่กี่รายที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้
Litchfield ช่วยจูนให้ได้ 700 แรงม้าอย่างเสถียร ขับเคลื่อนล้อหลังผ่านเกียร์กลไกสุดโหด ฟังดูอาจไม่หวือหวา แต่เมื่อนำมารวมกับน้ำหนักที่เบากว่า McLaren 720S ถึง 300 กิโลกรัม ความแรงจึงยิ่งทวีคูณในทางโค้ง
เสน่ห์ของ Bohema: มากกว่าตัวเลข
ไฮไลต์ของ Bohema ไม่ใช่เพียงการเร่งตรง แต่คือความสามารถในทางโค้ง ด้วยแรงกดอากาศมหาศาล มันสามารถ “ล่า” โค้งได้เหมือนสัตว์นักล่า ไม่ใช่แค่ “เข้าโค้ง” ธรรมดา
Praga Bohema ทำลายสถิติสนามชื่อดังในยุโรป เช่น Autodrom Most, Brno และ Slovakia Ring โดยเอาชนะรถสายสนามอย่าง Porsche 911 GT3 RS ได้สบาย ๆ
แล้ว Praga คือใคร?
Praga ก่อตั้งในปี 1907 ณ กรุงปราก (Prague) เดิมทีทำรถยนต์, รถบัส, รถไฟ และเครื่องบิน ก่อนจะหายไปช่วงหนึ่ง และกลับมาใหม่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ที่เน้นสายมอเตอร์สปอร์ต โดยมีผลิตภัณฑ์อย่าง Praga R1 รถแข่งล้วนหนึ่งที่นั่ง, มอเตอร์ไซค์คลาสสิค ZS800 และรถแข่งแรลลี่ Dakar
ชื่อ Bohema มาจาก “Bohemia” ซึ่งเป็นภูมิภาคเก่าแก่ของเช็ก และสะท้อนรากเหง้าของแบรนด์อย่างแท้จริง
ขับในสนามเป็นอย่างไร?
Praga Bohema ทำให้ทุกการขับขี่รู้สึกเหมือนอยู่ใน LMP1 ที่ Le Mans ด้วยเบรกสุดโหด การเลี้ยวฉับไว น้ำหนักเบาจนไม่ต้อง “จัดการ” กับแรงเฉื่อยมาก แค่ “สั่ง” มันให้ไปทิศไหนก็แค่จับพวงมาลัยแน่น ๆ แล้วปล่อยให้แอโร่พามันไป
เกียร์ sequential แม้จะห้าวบนถนน แต่ในสนามกลับกลายเป็นอาวุธ ด้วยการเปลี่ยนเกียร์เร็วราวฟ้าผ่า ทั้งขึ้นและลง
แล้วขับบนถนนล่ะ?
แน่นอนว่ามีความ “โหด” อยู่บ้าง เช่น การสตาร์ทรถที่ไม่เรียบเนียน การเปลี่ยนเกียร์ที่เสียงดังสะเทือนหู และการเข้าออกห้องโดยสารที่ไม่เหมาะกับกางเกงรัดรูป แต่ Bohema มีความใส่ใจผู้ใช้เช่นกัน:
-
แอร์เย็นจริง
-
USB ชาร์จมือถือมี
-
ที่เก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มี
-
ที่วางขวด/ลำโพง Bluetooth อยู่ในแกนกลาง
-
แผงควบคุมที่เพดานใช้หมุนปรับโหมดง่ายโดยไม่ต้องละสายตา
-
ประหยัดน้ำมันระดับ 35 ไมล์ต่อแกลลอน (ราว 12.4 กม./ลิตร)
ความพิเศษที่ไม่มีใครเหมือน
-
ไม่ต้องมีทีมช่างก็ใช้ได้
-
ไม่ต้องรอ warm-up ระบบ
-
เครื่อง VR38DETT ทนระดับที่ Praga กล้ารับประกัน “ไม่จำกัดระยะทาง”
-
หากยังแรงไม่พอ Litchfield ยังมีรุ่นโมดิฟาย 1,200+ แรงม้าให้เลือก
สรุป: รถที่คุณต้อง “เข้าใจ” ไม่ใช่แค่ “ขับ”
Bohema ไม่ใช่รถที่ทุกคนจะรัก แต่มันออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบขับรถจริง ๆ ไม่ใช่แค่คนที่อยากโพสต์รูปบน IG ด้วยรูปลักษณ์สุดเท่ และวิธีขับที่ต้องใช้ทักษะ คุณจะต้อง “มีใจ” และพร้อมจะ “เรียนรู้มัน” จึงจะได้รับรางวัลเป็นประสบการณ์ที่รถอื่นให้ไม่ได้
มันอาจไม่มีเครื่อง V12, ไม่มีโหมด AI ขับอัตโนมัติ แต่ Praga Bohema คือไฮเปอร์คาร์ที่จริงจัง ซื่อสัตย์ และไม่เหมือนใครบนท้องถนน
แหล่งที่มา : topgear