Bentley Continental GTC รุ่นใหม่ มาพร้อมขุมพลัง Plug-in Hybrid V8 ที่เหมาะกับบุคลิกของรถเปิดประทุนหรูหราได้อย่างลงตัว ทั้งเสียงเครื่องยนต์ที่หนักแน่น การขับขี่แบบเงียบสนิทในโหมดไฟฟ้าล้วนเมื่อขับในเมือง และสมรรถนะเร้าใจบนถนนโล่ง พร้อมเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับการขับขี่ให้หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม
การออกแบบภายนอก: สง่างามด้วยรายละเอียดใหม่
Continental GT เจเนอเรชันที่สาม เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 และได้รับการอัปเดตครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา โดยรุ่นปี 2025 นี้มีการปรับดีไซน์ให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น
-
ไฟหน้าแบบ Batur-style พร้อมไฟ LED ถึง 120 ดวง
-
รุ่น Azure ใช้เลนส์ไฟท้ายสีแดง ต่างจากรุ่น Speed ที่ใช้เลนส์รมควัน
-
ล้อใหม่ขนาด 22 นิ้ว
-
กระจังหน้าใหม่ ปลายท่อไอเสียทรงใหม่ และดิฟฟิวเซอร์ที่ปรับดีไซน์
-
ตัดช่องระบายอากาศรูปตัว B ด้านข้างออกไป
มิติตัวถังยังคงความใหญ่โต เหนือกว่า Aston Martin Vanquish และ Ferrari 12Cilindri ด้วยความยาวและความสูงที่มากกว่า ส่งผลให้รถมีบุคลิกทรงพลังบนท้องถนน
ภายในห้องโดยสาร: หรูหรา สะท้อนความเป็น Bentley อย่างแท้จริง
ภายในยังคงโดดเด่นด้วยคุณภาพวัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีต:
-
แผงประตูลวดลาย “3D Harmony Diamond” ใหม่
-
วัสดุไม้โอ๊คแบบ open-pore (รถทดสอบใช้ลาย Piano Black)
-
เบาะหนัง Nappa มีให้เลือกถึง 15 สี
-
การตกแต่งโครเมียมแบบสว่างหรือเข้ม
-
หน้าจอหมุนอัตโนมัติพร้อมมาตรวัดแบบแอนะล็อก 3 ชุด: เข็มทิศ, อุณหภูมิ, ตัวจับเวลา
ระบบอินโฟเทนเมนต์แชร์พื้นฐานกับ Porsche และ Audi จากกลุ่ม VW แต่การใช้งานยังคงตอบสนองได้ดี โดยเฉพาะปุ่มฟังก์ชันที่เป็นแบบกดจริงพร้อมเสียง “คลิก” ที่สร้างความมั่นใจในการใช้งาน
ขุมพลังใหม่: Hybrid V8 พร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ วิ่งไฟฟ้าล้วนไกลถึง 82 กม.
Bentley ตัดสินใจยุติการใช้เครื่องยนต์ W12 และแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 เทอร์โบคู่แบบ Plug-in Hybrid โดยมี 2 ระดับพละกำลัง:
-
Ultra Performance Hybrid: 771 แรงม้า / 1,050Nm
-
High Performance Hybrid (รุ่น Azure): 671 แรงม้า / 950Nm (แรงกว่ารุ่น W12 เดิมถึง 12 แรงม้า)
ระบบประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 187 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 25.9kWh ส่งผลให้วิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลประมาณ 51 ไมล์ (ราว 82 กม.) ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
โหมดการขับขี่มีให้เลือก 4 แบบ:
-
B (Bentley): สมดุลระหว่างพลังไฟฟ้าและน้ำมัน
-
Comfort: นุ่มนวลขับสบาย
-
Sport: เร้าใจ เปลี่ยนเกียร์เร็ว และเสียง V8 ชัดขึ้น
-
Custom: ปรับแต่งได้เองตามใจผู้ขับ
สมรรถนะและการควบคุม: หนักแน่นแต่น่าขับ
แม้น้ำหนักตัวรถจะสูงถึง 2,636 กก. แต่ระบบช่วงลม 3 ห้อง (Triple-chamber air suspension) และระบบกันโคลงไฟฟ้า 48 โวลต์ (พร้อม Torque Vectoring) ทำให้รถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ
-
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยเสริมความมั่นคง
-
ดิฟเฟอเรนเชียลไฟฟ้าช่วยควบคุมอาการท้ายปัด
-
พวงมาลัยตอบสนองได้ไวแบบเกินคาด
ความรู้สึกโดยรวมในการขับนั้น แม้จะไม่ได้ให้อารมณ์แบบรถสปอร์ตเต็มตัว แต่สามารถ “พุ่งเข้าโค้ง” ได้สนุกและมั่นคงกว่าที่คิด
ความสบายที่เหนือระดับแม้เปิดหลังคา
แม้จะใส่ล้อขนาดใหญ่ 22 นิ้ว แต่ช่วงล่างสามารถดูดซับแรงสะเทือนได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะหลุม รอยต่อถนน หรือทางขรุขระ รวมถึงการเก็บเสียงและลดแรงลมขณะเปิดประทุนก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้รถซีดานหรู
สรุป: Bentley Continental GTC Azure 2025 เหมาะกับใคร?
เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถเปิดประทุนสุดหรู ขับขี่สบาย มีสมรรถนะสูง และไม่อยากประนีประนอมเรื่องความหรูหรือความเงียบสงบของระบบไฟฟ้า ตัวรถมีดีทั้งเรื่องดีไซน์ งานประกอบ เทคโนโลยี และการขับขี่ – เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการครอบครอง “ที่สุดของความหรูหราบนท้องถนน”
ข้อมูลทางเทคนิค Bentley Continental GTC Azure 2025
รายการ | ข้อมูล |
---|---|
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ) | £265,000 |
เครื่องยนต์ | V8 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ + PHEV |
ระบบส่งกำลัง | เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ |
กำลังสูงสุด | 671 แรงม้า |
แรงบิดสูงสุด | 950 นิวตันเมตร |
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. | 3.9 วินาที |
ความเร็วสูงสุด | 270 กม./ชม. |
อัตราสิ้นเปลือง | 28.0 กม./ลิตร (66mpg) |
ปล่อย CO2 | 98g/km |
ระยะทางวิ่งไฟฟ้า | 82 กม. (ประมาณการ) |
ขนาดตัวถัง (ยาว/กว้าง/สูง) | 4,895 / 1,966 / 1,392 มม. |
วางจำหน่าย | พร้อมจำหน่ายแล้วในยุโรป |
หากคุณกำลังมองหาสุดยอดรถเปิดประทุนที่ผสานทั้งความหรูหรา เทคโนโลยี และความสะดวกสบายในการขับขี่ Bentley Continental GTC Azure 2025 คือคำตอบที่ลงตัวเกินบรรยาย
Cr.autoexpress