Renault 5 Turbo 3E จะผลิตจริง! ฮอตแฮทช์ไฟฟ้ารุ่นลิมิเต็ด 500 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหลัง

เรโนลต์ (Renault) ได้ประกาศการผลิต Renault 5 Turbo 3E รุ่นที่คาดหวังจากคอนเซปต์ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งจะไม่ใช่รุ่นที่เป็นตัวท็อปของ Renault 5 โมเดลปัจจุบัน แต่เป็นรุ่นที่ผลิตจำกัดแบบแฮนด์บิลต์ โดยจะใช้พลังงานไฟฟ้า พร้อมพลังม้าสูงถึง 500 แรงม้า และราคาคาดว่าจะสูงกว่า 100,000 ปอนด์

การออกแบบที่แตกต่างและล้ำสมัย

ตัวถังของ Turbo 3E จะใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก เพื่อความเบาและแข็งแรง พร้อมดีไซน์ย้อนยุคที่ได้แรงบันดาลใจจากรุ่นดั้งเดิม มีเพียงสองประตู ส่วนหน้าของรถยังคงความคลาสสิกจากรุ่นแรก โดยมีกระจังหน้าใหญ่และไฟ LED ขนาดเล็กเหนือช่องระบายอากาศใหญ่ที่ด้านล่าง ขณะเดียวกันฝากระโปรงหน้าถูกตัดเป็นแนวรุก และซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับล้อและยางขนาดใหญ่

ด้านหลังของรถยังคงความเป็นเอกลักษณ์ด้วยดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่และปีกหลังที่มีขนาดเล็กและเรียบง่าย รวมทั้งไฟท้ายที่ได้รับการยืมมาจาก Renault 5 รุ่นปัจจุบัน

พลังงานไฟฟ้าและสมรรถนะสูง

ส่วนของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าจะใช้การขับเคลื่อนล้อหลัง โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัวในล้อหลัง ผลิตพลังรวม 500 แรงม้า ซึ่งสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที นอกจากนี้ ยังไม่เผยรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดหรือความจุของแบตเตอรี่ แต่จุดชาร์จจะอยู่ในช่องระบายอากาศภายนอก ซึ่งเป็นการอ้างอิงจากช่องเติมน้ำมันของรุ่นดั้งเดิม

ผลิตในฝรั่งเศสและความเป็นไปได้ในการปรับแต่ง

Renault 5 Turbo 3E จะถูกผลิตในฝรั่งเศสโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเลือก ซึ่งจะทำการประกอบตัวรถด้วยมือ และการผลิตจะมีจำนวนจำกัด ราคาคาดว่าจะอยู่ในระดับ 100,000 ปอนด์ขึ้นไป และมีตัวเลือกสีและลวดลายให้เลือกมากมาย ทั้งยังมีความสามารถในการปรับแต่งที่สามารถเลือกได้ตามต้องการ

อนาคตของแบรนด์เรโนลต์

แม้ว่า Renault 5 Turbo 3E จะดูเหมือนขัดแย้งกับกลยุทธ์ของเรโนลต์ในการทำให้ Alpine เป็นแบรนด์ยานยนต์สมรรถนะสูงหลักของบริษัท แต่ก็แสดงให้เห็นว่าแนวคิดของการมีโมเดลสมรรถนะสูงที่สวมตรา Renault ยังไม่หายไปไหน จึงเป็นการตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์ของแฮทช์แบ็กขับเคลื่อนล้อหลังในยุคใหม่

การผลิต Renault 5 Turbo 3E นี้จะเป็นการรวมเอาความคลาสสิกและเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมกับการออกแบบที่โดดเด่นและสมรรถนะที่ท้าทายซูเปอร์คาร์

แหล่งที่มา : autoexpress