Ram ประกาศคืนชีพเครื่องยนต์ Hemi V-8 สำหรับกระบะรุ่น 1500 หลังจากหยุดผลิตไปเพียงหนึ่งปี โดย Tim Kuniskis ซีอีโอของ Ram ยอมรับว่าการเลิกใช้ V-8 ถือเป็น “ความผิดพลาด” และเสียงจากลูกค้าก็ชัดเจนว่า “ไม่มีอะไรมาแทนที่ Hemi V-8 ได้”

แม้ทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์จะมุ่งสู่ยุคไฟฟ้าหรือไฮบริด แต่หลายค่ายยังคงพัฒนาและใช้เครื่อง V-8 ต่อไป ไม่ใช่แค่ Ram เท่านั้น — GM ลงทุนกว่า 888 ล้านดอลลาร์เพื่อเตรียมผลิตเครื่อง V-8 รุ่นใหม่ Mercedes ก็พัฒนา V-8 สำหรับทั้งไลน์อัพ BMW ยืนยันจะเก็บ V-8 ไว้เพื่อตลาดสหรัฐและตะวันออกกลาง ขณะที่ Porsche ก็จะผลิตต่อไปจนถึงทศวรรษ 2030

ทำไม V-8 ถึงยังอยู่ยาวในอเมริกา

V-8 อาจไม่ได้เกิดในสหรัฐ แต่กลับผูกพันกับวงการรถยนต์อเมริกันอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่ Ford Flathead V-8 ในปี 1932 ที่จุดกระแสเครื่อง 8 สูบให้แพร่หลาย จุดเด่นของ V-8 คือขนาดกะทัดรัด กำลังสูง การทำงานสมดุล และในอดีตผลิตได้ในต้นทุนต่ำ ทำให้ครองตลาดในยุคที่น้ำมันถูกและกฎควบคุมมลพิษยังไม่เข้มงวด

แม้ช่วงวิกฤตพลังงานและกฎหมายสิ่งแวดล้อมทศวรรษ 1970 จะทำให้ความนิยมลดลง แต่ V-8 ยังคงมีบทบาทในรถขนาดใหญ่และรถกระบะ รวมถึงถูกใช้ในยุโรปและญี่ปุ่นเพื่อตลาดหรู

การหันหลังให้ V-8 ของ Ram และการกลับมาอีกครั้ง

สำหรับรุ่นปี 2025 Ram 1500 เคยเลิกใช้ V-8 แล้วหันไปใช้เครื่องเบนซิน 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ “Hurricane” ที่มีแรงม้าสูงกว่าและประหยัดกว่าเล็กน้อย แต่ผลตอบรับไม่เป็นไปตามคาด แม้จะมีกำลังเพิ่มขึ้น 15 แรงม้าและแรงบิดมากกว่า 49 ปอนด์-ฟุต แต่ความต่างด้านอัตราสิ้นเปลืองกลับน้อยมาก (21 MPG เทียบกับ V-8 ที่ 20 MPG) และปล่อย CO₂ พอๆ กัน

ลูกค้ารถกระบะมักให้ความสำคัญกับความทนทานและความเรียบง่ายของเครื่องยนต์ ซึ่ง Hemi V-8 ทำได้ดีกว่าเครื่องเทอร์โบซับซ้อนที่มีชิ้นส่วนและระบบมากกว่า

กลยุทธ์การตลาดแบบ “Symbol of Protest”

Ram เปิดตัวโลโก้ใหม่ “Symbol of Protest” พร้อม Hemi V-8 เพื่อสื่อถึงการ “ต่อต้าน” แม้จะไม่ได้ชี้ชัดว่าต่อต้านอะไร การเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งการเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง และเป็นการตลาดที่สร้างกระแสให้กลับมาพูดถึงแบรนด์ได้ทันที

ความท้าทายในอนาคต

แม้การคืนชีพ Hemi V-8 จะเป็นชัยชนะระยะสั้น แต่เครื่องยนต์นี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2003 และไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ Stellantis เจ้าของแบรนด์ Ram จำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีอื่นควบคู่ไป เช่น ไฮบริดและไฟฟ้า เพื่อรองรับกฎสิ่งแวดล้อมที่จะเข้มงวดขึ้นในอนาคต

ค่ายอื่นอย่าง BMW และ GM สามารถเดินเกมสองทางได้สำเร็จ ทั้งพัฒนา V-8 และขยายไลน์ EV/Hybrid พร้อมกัน ซึ่งอาจเป็นแนวทางที่ Stellantis ต้องเรียนรู้ หากไม่อยากตกขบวนในยุคพลังงานใหม่

Cr.motor1