เปอโยต์ ฉลองครบรอบ 210 ปี ในวันที่ 26 กันยายน 2020 นับตั้งแต่การก่อตั้งช่วงปี ค.ศ. 1810 ด้วยการเป็นแบรนด์ที่เปี่ยมด้วยความหลงใหล ความกล้าบ้าบิ่น และไม่เคยปิดกั้นความคิดในการรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เริ่มตั้งแต่การปฏิวัติวงการแฟชั่นช่วงศตวรรษที่ 19 จนถึงการคิดค้นการเดินทางรูปแบบใหม่ๆ อาทิ จักรยาน และ รถยนต์ ซึ่ง เปอโยต์ เป็นแบรนด์ที่พร้อมฉีกทุกกฎเกณฑ์ เพื่อสรรสร้างมาตรฐานใหม่ในการเดินทาง
กว่า 2 ศตวรรษที่ผ่านมา โลกใบนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 10 ปี ที่ผ่านมา วิถีชีวิตของเราได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน สู่การใช้ชีวิตประจำวันที่รวดเร็วขึ้นในทุกมิติ ไม่เฉพาะเพียงโครงข่ายดิจิทัลหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แต่รวมไปถึงวิธีคิด พฤติกรรมการบริโภค และการเดินทางในรูปแบบใหม่ๆ
ตลอดระยะเวลาดังกล่าว เปอโยต์ ยังคงรักษาความเป็นผู้นำของวงการยานยนต์ ไปพร้อมๆ กับการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการหาช่องทางในการขยับสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านโมบิลิตี้ การผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ๆ สู่ตลาด และแน่นอนว่ารวมไปถึงการพัฒนารถไฟฟ้าในอนาคต
โลโก้พิเศษถูกผลิต เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 210 ปี โดยทีมนักออกแบบจากสตูดิโอ PEUGEOT Design Lab โดยสิงโตที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ มีลักษณะยืนหันข้าง พร้อมขีดเส้นใต้ด้วยลูกศร สะท้อนภาพโลโก้ดั้งเดิมของ เปอโยต์ (จดทะเบียนปี ค.ศ. 1858) สื่อถึง 3 คุณลักษณะเด่นของ ใบเลื่อย เปอโยต์ ในอดีต คือ ความยืดหยุ่น, แข็งแกร่ง และความเร็วในการเลื่อย ขณะที่ลูกศรก็สื่อถึงความเร็วเช่นเดียวกัน
ตัวหนังสือ “210 years” ไม่เพียงสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แต่ยังสะท้อนถึงอนาคตในอีก 210 ปีข้างหน้า ขณะที่โลโก้ขาว-ดำแสดงถึงความเคร่งขรึมและการประหยัดอดออม ซึ่งเป็นหลักการที่ เปอโยต์ ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด ปิดท้ายด้วยวงกลมล้อมรอบสิงโต ให้ความรู้สึกถึงการเป็น ตราสัญลักษณ์ ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ครอบครอง
สำหรับประเทศไทย หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก็เดินหน้าขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแห่งแรก สาขาเกษตร-นวมินทร์ และ
เออร์เบินสโตร์บนศูนย์การค้าสยามพารากอน ตามมาด้วยการเปิดโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรแห่งที่ 2 และ 3 ที่สาขาสุขุมวิทและเยาวราชช่วงต้นปี 2020 ก่อนจะขยายเครือข่ายสู่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศในปีถัดไป