fbpx
New MG4 Electric

New MG4 Electric แฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% เตรียมเปิดตัวในงาน Motor Expo 2022

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดเผยรายละเอียด New MG4 Electric รถแฮทช์แบ็คพลังงานไฟฟ้า 100% ก่อนประกาศราคาจำหน่ายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ในงาน Motor Expo 2022

New  MG4 Electric ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า100% ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ที่มาเปลี่ยนสมรรถนะของรถพลังงานไฟฟ้า ให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้น สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ กับความสามารถในการนำไปปรับใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ครอบคลุมหลากหลายเซกเมนต์ หลายขนาด ตั้งแต่รถแฮทช์แบ็ค ซีดานไปจนถึงรถกระบะ รวมถึงรองรับแบตเตอรี่หลากหลายความจุ

โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบภายนอกสปอร์ตรอบคัน

  • การออกแบบตัวรถใหม่แบบ AVANT-GARDE INDUCTIVE DESIGN
  • ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS
  • ไฟท้าย LED ลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
  • หลังคาแบบทูโทน พร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING
  • ล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อม AERO WHEEL COVER
  • มิติตัวถัง​ 4,287 x 1,836 x 1,516 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
  • ระยะความยาวฐานล้อ 2,705 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มิลลิเมตร

ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เน้นการใช้งานที่สะดวก เพื่อให้ดูโปร่งโล่งสบาย

  • คอนโซลกลาง FLOATED CENTRAL CONTROL PLATFORM พร้อมอุปกรณ์ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charger)
  • ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง
  • พวงมาลัย ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
  • กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
  • หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Dual Screen แบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด
  • ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
  • รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ สมาร์ทโฟนระบบ Android
  • พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE A และ C
  • ระบบกรองอากาศ 5
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
  • เบาะนั่งด้านหลังพนักพิง ปรับ 60:40
  • โหมด Intelligent Smart Access เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในตำแหน่งคนขับ เพียงเหยียบเบรกระบบการทำงานของรถจะสตาร์ทอัตโนมัติ

EV เลือดใหม่ที่ขับสนุก และเร้าใจ

  • ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
  • มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY ขนาดความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 425 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
  • แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
  • ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีด้วยระบบ LIQUID COOLING SYSTEM
  • ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE)
  • ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับต่ำ กลาง สูง และแบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE)
  • ระบบโครงสร้างพวงมาลัยรูปแบบใหม่ DUAL PINION ควบคุมด้วยไฟฟ้า
  • รัศมีวงเลี้ยว 3 เมตร
  • การกระจายน้ำหนักแบบสมมาตร 50:50 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบอิสระ 5-Link Suspension
  • โหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM และ SNOW

New MG4 Electric มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 26 ระบบ ได้แก่

  • ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist)
  • ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
  • ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
  • ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
  • ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
  • ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)

New MG4 Electric ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 128 แห่งทั่วประเทศ

  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 88 kWh
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ
    8 ชั่วโมง 30 นาที* ที่ 6 kWh
  • รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า

*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า

พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ เอ็มจี ที่ประกอบด้วย

ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check)

  • ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ Battery Doctor บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
  • ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
  • ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
  • ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
  • ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ

ระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command)

  • กุญแจดิจิตอล
  • ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
  • ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
  • ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
  • ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน

ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)

  • ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
  • ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
  • อัพเกรดระบบผ่านออนไลน์
  • ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
  • อัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
  • ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน

* อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น

New MG4 Electric ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X

บทความที่น่าสนใจ

Ducatisti ประกาศยุติบทบาทตัวแทนจำหน่าย Ducati ในไทย

Peng

All-New Toyota Camry เผยโฉมพร้อมดีไซน์ใหม่ และมีเฉพาะขุมพลังไฮบริดในสหรัฐฯ

Peng

BMW เปิดตัวรุ่น ‘Sport’ ใหม่สำหรับ 1-Series, 2-Series, และ 3-Series ในออสเตรเลีย

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy