Lamborghini เคยบอกพวกเราว่า Aventador LP 780-4 Ultimae จะเป็นซูเปอร์คาร์รุ่นสุดท้ายแล้วที่จะใช้เครื่องยนต์ V12 แบบเพียวๆ แต่มาวันนี้ค่ายกระทิงดุกลับทำให้เราประหลาดใจด้วยการเปิดตัวอีก 2 รุ่นพิเศษแบบ One-Off เพื่อส่งท้ายเครื่องยนต์เพียว V12 อีกครั้งในชื่อ Lamborghini Invencible (คูเป้) และ Autentica (เปิดประทุน)
ซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษทั้ง 2 นี้ยังคงใช้ Aventador เป็นพื้นฐานและถูกสร้างสรรค์โดย Lamborghini Centro Stile ซึ่งได้มีการใช้รุ่นพิเศษในอดีตอย่าง Sesto Elemento, Reventon และ Veneno มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
ที่ด้านหน้าของทั้ง Invencible และ Autentica มาพร้อมจมูกที่เฉียบคมและต่ำ ขนาบข้างด้วยไฟหน้ารูปลูกศร พร้อมด้วยสปลิตเตอร์ที่โดดเด่น ฝากระโปรงหน้ามีช่องระบายอากาศชวนให้นึกถึงรุ่น Essenza SCV12
ในขณะที่เรือนกระจกและสัดส่วนแสดงถึงความเชื่อมโยงกับ Aventador แต่โปรไฟล์นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับช่องด้านข้างขนาดใหญ่กว่ามาก และซุ้มล้อสุดเซ็กซี่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมล้ออัลลอยดุมกลางที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งมีลวดลายคล้ายกับใยแมงมุม
ด้านท้ายได้รับการออกแบบให้ล้ำยุคยิ่งขึ้นด้วยไฟท้าย LED ทรงหกเหลี่ยม 3 ดวง การอกแบบในธีมเดียวกันนี้ยังถูกนำไปใช้บนฝาครอบเครื่องยนต์ และปลายท่อไอเสียออกกลาง 3 ท่อ ส่วนท้ายเต็มไปด้วยช่องระบายอากาศ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ในตัว และมีปีกหลังแบบยึดตายตัวในรุ่น Invencible ขณะที่รุ่นเปิดประทุน Autentica จะเป็นแบบครีบคู่ และมีโดม 2 อันหลังพนักพิงศีรษะ
ห้องโดยสารมีเลย์เอาต์พื้นฐานคล้ายกับ Lamborghini รุ่นอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 แต่การออกแบบนั้นแตกต่างออกไป โดยมีช่องระบายอากาศพิมพ์ 3 มิติทรงหกเหลี่ยมแผงหน้าปัดดิจิทัลที่มีกราฟิกเฉพาะสำหรับรถแต่ละคัน ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์จำนวนมาก และไม่มีหน้าจอสัมผัสระบบอินโฟเทนเมนต์บนคอนโซลกลาง
ซูเปอร์คาร์ทั้ง 2 ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 780 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 720 นิวตันเมตร เหมือนในรุ่น Ultimae ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ ISR 7 สปีด พร้อมติดตั้งระบบ Lamborghini Dynamic Steering ที่ช่วยให้บังคับเลี้ยวได้ทั้ง 4 ล้อ
Lamborghini อธิบายเกี่ยวกับรถทั้ง 2 รุ่นนี้ว่าเป็น “การส่งท้าย” ของเครื่องยนต์ V12 ที่ไม่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ V12 ไฮบริดใหม่ในเรือธงรุ่นต่อไป บริษัทยืนยันว่าผู้สืบทอดของ Aventador จะถูกเปิดตัวใน “อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” ในฐานะซูเปอร์คาร์ที่จะเป็นไอคอนคันต่อไปและเป็นครั้งแรกที่มีระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริด
CR :Carscoops