fbpx

Mitsubishi Outlander PHEV รถปลั๊กอินไฮบริดอีกหนึ่งคันที่น่าจับตามอง เปิดราคามาสวย ๆ 1.6 ล้านบาท

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี) ใหม่ ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 ก้าวข้ามสู่อีกขั้นของพีเอชอีวี ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ เป็นการผสาน DNA และเทคโนโลยีรถยนต์ระดับตำนานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เข้าไว้ด้วยกัน เริ่มด้วย “ปาเจโร” สุดยอดตำนานแห่งรถเอสยูวี “มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน” เจ้าแห่งสนาม “เวิลด์แรลลี่แชมเปี้ยนชิพ” (WRC) ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่เป็นหนึ่งในตำนานแห่งสมรรถนะ รวมทั้งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายจริงรุ่นแรกของโลกอย่าง “ไอ-มีฟ” (i-MiEV)

 

“มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ ทรงพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตรให้กำลังสูงสุดที่ 305 แรงม้า(1) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ดีที่สุดจาก ‘มิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน’ ดังนั้น มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ จึงไม่ได้เป็นเพียงรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลก แต่เป็นรถพีเอชอีวีที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก

มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 52.6 กม.ต่อลิตร(2) หรือ 1.9 ลิตรต่อ 100 กม.(2) ตามมาตรฐาน NEDC(3)  มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำที่ 43 กรัมต่อกม.(2) พร้อมอัตราเร่งและแรงบิดที่ดีเยี่ยม หมดกังวลเรื่องระยะทางการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน พร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวล ห้องโดยสารเงียบ และสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย “พลังงานสองรูปแบบ” ที่ได้จากการชาร์จกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ ยังสามารถผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถ เพื่อให้คุณได้สนุกสนานกับไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่”

นอกจากนี้ยังเป็นรถยนต์ มิตซูบิชิ รุ่นแรกในประเทศไทยที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยคุณสมบัติ “การควบคุมรถดังใจคิด” และ “สมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง” ประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking (ABS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control (ASC) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและล้อขวา Active-Yaw Control (AYC) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง ควบคุมแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ พร้อมเสถียรภาพ เพิ่มสมรรถนะและการควบคุม มั่นใจทุกการเข้าโค้ง ระบบซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล ยังทำงานร่วมกับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ประกอบด้วย โหมดล็อค (มอบสมรรถนะเต็มรูปแบบของระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โหมดสโนว์ (ให้การควบคุม การยึดเกาะ และการควบคุมที่ดีเยี่ยม เมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น) โหมดนอร์มอล (ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่ ) และ โหมดสปอร์ต (เพิ่มความแม่นยำของคันเร่ง การควบคุม และการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้ดีมากขึ้น) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการยึดเกาะและลุยผ่านทุกสภาพถนน พร้อมช่วยรักษาเสถียรภาพ และเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย 

มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมดอีวี (ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ) โหมดซีรีย์ ไฮบริด (ขับเคลื่อนหลักด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่) และ โหมดพาราเรล ไฮบริด (เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถไปพร้อมกัน) โดยการขับขี่ทั้ง 3 รูปแบบ จะถูกสลับปรับเปลี่ยนโหมดแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบเบรกที่สามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าคืน (Regenerative Braking) เพื่อทำการชาร์จกระแสไฟฟ้าให้แก่แบตเตอรี่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่ ยังติดตั้งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อพร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะ ที่สามารถใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการไอโอเอสและแอนดรอยด์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ โดยสามารถตั้งเวลาการชาร์จไฟฟ้า สั่งการเปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศภายในรถจากระยะไกล และการตรวจสอบสถานะของตัวรถ

ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน อาทิ ระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA)  และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) โดยระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC) ไม่ได้ทำหน้าที่แต่เฉพาะรักษาระดับความเร็วให้คงที่เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ตรวจจับรถคันหน้า พร้อมควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยจนกว่ารถจะหยุด

มีให้เลือก 2 รุ่น เริ่มต้นที่รุ่น จีที มีราคาจำหน่ายที่ 1,640,000 บาท และรุ่น จีที พรีเมียม มีราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาท โดยทั้ง 2 รุ่น ลูกค้าสามารถมั่นใจและหมดความกังวลในด้านค่าบำรุงรักษาด้วยแพ็กเกจ วอรี่ ฟรี (worry-free) ประกอบด้วย ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร(4) ฟรี มิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ 5 ปี


 

บทความที่น่าสนใจ

นี่คือสาเหตุที่ถุงลม Takata ถูกเรียกเคลมจากบริษัทรถยนต์ทั่วโลก

Nopkung

เหมือนแจกฟรี NSX Type S ขายหมดเกลี้ยงแผงในสหรัฐฯ ใช้เวลารวดเร็วเพียง 24 ชั่วโมง

idiot

ลืออีก! Toyota GR Corolla จะใช้เครื่องยนต์จาก GR Yaris และเปิดตัวในปีนี้

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy