fbpx
Mitsubishi Motors ผู้นำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตสู่ชีวิตปัจจุบัน

Mitsubishi Motors ผู้นำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตสู่ชีวิตปัจจุบัน

Mitsubishi Motors เปี่ยมด้วยประสบการณ์ ข้อมูลเชิงลึก และยังเป็นผู้นำด้านการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 100 ปีของ Mitsubishi Motors นอกจากชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแล้ว บริษัทฯ ยังคิดค้นนวัตกรรมด้านพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง

โดย Mitsubishi Motors ได้เริ่มทำการวิจัยและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อผลิตในเชิงอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ (Mass Production) ในปี 2509 และภายในปี 2514 Mitsubishi Motors ได้ทำการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไทพ์อี12 (“มินิกาแวน” Minica Van) จำนวน 10 คันให้แก่ บริษัท โตเกียว อิเล็กทริค เพาเวอร์ ก่อนจะต่อยอดไปสู่การเปิดตัว มิตซูบิชิ ไอ มีฟ (Mitsubishi i-MiEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์เมื่อปี 2552

ขณะเดียวกัน Mitsubishi Motors ยังได้วางแผนสร้างยานยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ขับเคลื่อนได้ไกลขึ้น และมีสมรรถนะสูงขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าผสานเข้ากับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ จากการสร้างรถออฟโรดและรถอเนกประสงค์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในระดับโลก จนกระทั่ง มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี “Mitsubishi Outlander PHEV” (ปลั๊กอินไฮบริด) ได้ทำการเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่งาน ปารีส มอเตอร์โชว์ ปี 2555

นับตั้งแต่การเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2556 Mitsubishi Outlander PHEV จำหน่ายไปแล้วมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 200,000 คันเมื่อสิ้นสุดปี 2561 โดย Mitsubishi Outlander PHEV ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในหลายประเทศ อีกทั้งยังได้รับรางวัลทรงเกียรติต่างๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และในอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Mitsubishi Motors ได้ทำการมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแก่หน่วยงานรัฐบาล มหาวิทยาลัย และสถาบันการวิจัยต่างๆ เพื่อการทดลองสาธิต และร่วมดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าในแต่ละประเทศ

ด้วยประสบการณ์ในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้ามานานกว่า 50 ปี Mitsubishi Motors มุ่งมั่นยกระดับชีวิตลูกค้าให้มีคุณภาพและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในยานยนต์ และเพิ่มคุณค่าในการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งแบบ EV และ PHEV ทั้งนี้วิสัยทัศน์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คือการสร้างโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อมอบความยั่งยืน เสถียรภาพ และความมั่นคงให้แก่ระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ Mitsubishi Motors นอกประเทศญี่ปุ่น Mitsubishi Motors มีแผนที่จะทำตลาดรถยนต์ EV และ PHEV ซึ่งคาดว่าจะมียอดจำหน่ายรวมในภูมิภาคนี้ถึง 1.2 ล้านคันภายในปี 2579 โดยการสนับสนุนจากภาครัฐ

ทั้งนี้ Mitsubishi Motors ได้รับการพิจารณาอนุมัติส่งเสริมการลงทุน เพื่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริดเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำและวางใจได้ที่มีอยู่ใน Mitsubishi Outlander PHEV ช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ไฟฟ้าอย่างหลากหลายนอกเหนือจากการใช้เพื่อการขับขี่

ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยี V2X (Vehicle to Everything) ซึ่งใช้เป็นแหล่งจ่ายพลังงานได้สำหรับทุกสิ่ง รวมทั้งใช้เป็นแหล่งจ่ายพลังงานสำหรับครัวเรือนหรือที่เรียกว่าเทคโนโลยี V2H (Vehicle to Home) โดยรถยนต์ EV หรือ PHEV จะทำการชาร์จไฟฟ้าเก็บไว้ และทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับครัวเรือนได้เมื่อจอดพัก พร้อมด้วยเทคโนโลยี V2G (Vehicle to Grid) ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายไฟฟ้า โดยการเก็บสะสมและจ่ายกระแสไฟฟ้าจากรถยนต์ EV หรือ PHEV จำนวนมาก ซึ่งจะสร้างเสถียรภาพให้กับโครงข่ายไฟฟ้าเมื่อเกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานต่อพลังงานไฟฟ้า

นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าแล้ว เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยให้มีไฟฟ้าใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินและในกรณีเกิดภัยทางธรรมชาติ รถยนต์อเนกประสงค์แบบ PHEV ของ Mitsubishi Motors สามารถทำหน้าที่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าเคลื่อนที่ให้กับแหล่งชุมชน โดย Mitsubishi Motors ได้มุ่งมั่นพิสูจน์อย่างต่อเนื่องถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่เป็นได้มากกว่าการขับขี่

ภายในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 ในเดือนมีนาคม 2562 Mitsubishi Motors ได้จัดแสดงกลยุทธ์ด้านพลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัยไปอีกขั้น ผ่านการสาธิตของ “เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์” หรือ DDH (DENDO DRIVE HOUSE) ซึ่งในภาษาญี่ปุ่น เดน หมายถึง “ไฟฟ้า” และ โด หมายถึง “การขับขี่” ทั้งนี้ DDH เป็นระบบเครือข่ายพลังงานรูปแบบใหม่ที่ช่วยให้เจ้าของรถยนต์สามารถผลิต กักเก็บ และถ่ายเทพลังงานโดยอัตโนมัติระหว่างรถยนต์และบ้านของตนเอง ซึ่งไม่เพียงเพิ่มคุณค่าของรถยนต์ EV หรือ PHEV เท่านั้น แต่ยังสร้างระบบเครือข่ายพลังงานที่ยั่งยืนอีกด้วย

DDH (DENDO DRIVE HOUSE) กำลังจะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต อีกทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน การดำรงชีวิตด้วยเทคโนโลยีระบบ DDH จะไม่เป็นเพียงแค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะ Mitsubishi Motors ได้เริ่มจำหน่าย DDH ครั้งแรกในโลกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ 3 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา และกำลังเตรียมที่จะเริ่มจำหน่ายในประเทศอื่นๆ ต่อไป


 

บทความที่น่าสนใจ

ทายาท Lamborghini Aventador ชื่อรหัส LB744 เคาะวันเปิดตัว 29 มีนาคมนี้

Peng

New Nissan Fairlady Z เผยราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เริ่มต้น 1.39 ล้านบาทในญี่ปุ่น

Peng

Mercedes-AMG GT เวอร์ชั่น Plug-In Hybrid พลัง 805 แรงม้า จ่อเปิดตัว 1 กันยายนนี้

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy