Lexus ได้ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งใหม่เมื่อปลายเดือนเมษายน 2021 ด้วยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 2 ล้านคันทั่วโลก เป็นเวลา 16 ปีนับตั้งแต่ RX400h เปิดตัวในปี 2005 นั่นเท่ากับลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 19 ล้านตัน หรือประมาณ 300,000 คัน ในแต่ละปีตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ RX ไฮบริดรุ่นแรก ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูได้ขยายกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีรุ่น hybrids และรุ่นพลังงานไฟฟ้าล้วนทั้งหมด 9 รุ่น วางจำหน่าย และมีการดำเนินงานอีก 90 ประเทศ เมื่อปีที่แล้วหนึ่งในสามหรือ 33% ของ Lexus ทุกรุ่นที่ขายทั่วโลกเป็นรถพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด
ตามวิสัยทัศน์ “ Lexus Electrified” ของผู้ผลิตรถยนต์ที่ประกาศในปี 2019 จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 20 รุ่นภายในปี 2025 ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นรถไฮบริดหรือรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ Lexus ยังวางแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นภายในปี 2025 หลังจากนั้นจะค่อยๆ ยุติการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปภายใน ส่วนภายในปี 2050 Lexus ตั้งเป้าที่จะบรรลุใช้ Carbon neutrality ทั้งหมดตั้งแต่การผลิตไปจนถึงโลจิสติกส์และการรีไซเคิล
ตอนนี้ Lexus จะเปิดตัวรุ่นปลั๊กอินไฮบริดแบบ Mass-Market รุ่นแรกในปีนี้ เช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2022 สำหรับโมเดลในอนาคตจะได้รับประโยชน์จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ DIRECT4 และระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า
อีกรูปแบบหนึ่งที่จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีข้างต้นคือ รุ่นคอนเซปต์คาร์ LF-Z Electrified ที่ได้แสดงตัวอย่างไปเมื่อต้นปีนี้ โดยรุ่นดังกล่าวนี้มาพร้อมมอเตอร์สองตัวที่ให้กำลังรวมกัน 536 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร Lexus กล่าวว่าอัตราเร่งและประสิทธิภาพในการเข้าโค้งจะเอาใจผู้ที่ชื่นชอบการเร่งความเร็วในการเข้าโค้ง เมื่อใช้งานร่วมกับ DIRECT4 และระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม. / ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 3 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 200 กม. / ชม.
ทั้งนี้ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนระบายความร้อนด้วยของเหลว 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 600 กม. ในตามมาตรฐาน WLTP และสามารถชาร์จเร็วได้ 150 กิโลวัตต์ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ Lexus กล่าวว่า การออกแบบภายในใหม่จะเน้นไปที่การมองเห็นภายนอกและห้องโดยสารที่สะอาดจะมอบประสบการณ์ที่เรียบง่ายยิ่งขึ้นที่ Lexus เรียกว่า omotenashi ที่แท้จริง
Cr. Paultan