ราคาขายต่อของ Tesla Model 3 กำลังร่วงแรงอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นโอกาสทองของผู้ที่อยากเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าระยะไกลในราคาย่อมเยา แม้จะต้องพิจารณาบางเรื่องเกี่ยวกับแบรนด์ แต่ถ้าคุณมองแค่ที่ตัวรถ — ตอนนี้ถือเป็น “ช่วงเวลาที่ดี” ที่สุดในการซื้อ Tesla มือสอง

ราคาตกหนัก: จากแสนกว่าเหลือไม่ถึงล้าน

เว็บไซต์ชื่อดังด้านรถยนต์อย่าง Edmunds เพิ่งขาย Tesla Model 3 Long Range รุ่นปี 2024 ไปในราคาเพียง $31,000 (ประมาณ 1,131,500 บาท) เทียบกับราคาตอนซื้อใหม่ที่ $60,630 (ประมาณ 2,213,000 บาท) เรียกได้ว่าขาดทุนเกือบครึ่ง

แม้จะได้ส่วนลดเพราะสามารถโอนซอฟต์แวร์ Full Self-Driving ที่มีมูลค่า $12,000 (ประมาณ 438,000 บาท) มาจากรถคันก่อนหน้าได้ ทำให้ต้นทุนรวมอยู่ที่ $48,630 (ประมาณ 1,775,000 บาท) — แต่ก็ยังถือว่าขาดทุนเกือบ $18,000 (ประมาณ 657,000 บาท) อยู่ดี

เหตุผลที่ราคาดิ่ง

• Tesla โดยเฉพาะรุ่น Cybertruck กำลังประสบปัญหาราคาขายต่อตกเร็วกว่าแบรนด์อื่นถึง 3 เท่า

• รถ EV โดยรวมมักมีมูลค่าขายต่อต่ำกว่ารถน้ำมัน เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานกลางในการประเมิน “สภาพแบตเตอรี่”

• Tesla เองเผชิญกับกระแสต้านในสหรัฐและยุโรป เนื่องจากภาพลักษณ์ของซีอีโอ Elon Musk ที่มีบทบาททางการเมืองเด่นชัด

แล้ว Tesla Model 3 ยังน่าใช้ไหม?

คำตอบคือ: ถ้าคุณตัดเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ออกไป — คุ้มมาก!

Tesla Model 3 ยังจัดอยู่ในกลุ่ม “รถซีดานไฟฟ้าที่ดีที่สุด” เพราะ:

• ขับสนุก เร่งดี

• วิ่งได้ไกล (รุ่น Long Range สูงสุดถึง 358 ไมล์ หรือราว 576 กม.)

• มีระบบชาร์จเร็วที่ดีที่สุดในตลาด (Tesla Supercharger)

ราคาตลาดมือสองในปัจจุบันจาก Kelley Blue Book:

รุ่นใหม่อย่าง Highland ได้รับการปรับปรุงเรื่องช่วงล่าง ความเงียบในห้องโดยสาร และความพรีเมียม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีมากเช่นกัน

สรุป: ควรซื้อไหม?

ถ้าคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าระยะไกล ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทเศษ และไม่ซีเรียสกับตรา Tesla — ตอนนี้คือช่วงเวลาทอง

หากกังวลเรื่องภาพลักษณ์ ก็อาจแก้ด้วย “สติ๊กเกอร์แปะท้ายรถ” แล้วขับต่อไปอย่างมีความสุข