ในวงการรถยนต์ SUV สมัยใหม่ที่เน้นความหรูหราและฟีเจอร์ไฮเทค เราคงไม่คาดหวังว่า Ineos Grenadier จะเข้ามาเป็นตัวเลือกใหม่ในตลาดด้วยดีไซน์ที่ตรงไปตรงมาและการออกแบบที่ไม่ต้องการความปราณีตมากมาย แต่ก็เพราะความเรียบง่ายนี้แหละที่ทำให้มันโดดเด่น!
จุดเด่นของ Ineos Grenadier
- ออฟโรดที่ไร้คู่แข่ง
หากคุณมองหารถที่สามารถเดินทางไปในพื้นที่ทุรกันดารได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความทนทาน Grenadier คือคำตอบ! ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและช่วงล่างแข็งแรงช่วยให้มันสามารถบุกไปในทุกสภาพแวดล้อมได้อย่างไม่มีปัญหา - ความทนทานสูง
ด้วยโครงสร้างที่สร้างจากเหล็กหนา 3.5 มม. และการป้องกันการกัดกร่อนที่ครบครัน Ineos Grenadier ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทนทานในทุกสภาพการใช้งาน - ใช้งานได้หลากหลาย
รถยนต์ที่มีพื้นที่ภายในมากและสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น ไฟส่องสว่างบนหลังคา หรือกล่องเก็บของภายใน
ข้อเสียของ Ineos Grenadier
- กินน้ำมันมากเกินไป
การขับขี่ทางไกลอาจทำให้คุณตกใจเมื่อเห็นตัวเลขการใช้พลังงาน โดยเฉพาะในรุ่นดีเซลที่มีอัตราการใช้น้ำมันเพียง 23.1 mpg ตามมาตรฐาน WLTP - การขับขี่บนถนนที่ไม่ค่อยสะดวก
ความรู้สึกในการขับขี่บนท้องถนนค่อนข้างตึงเครียดและไม่สะดวกเหมือน SUV ทั่วไป เนื่องจากการควบคุมที่ไม่สมูธและพวงมาลัยที่ไม่ค่อยคล่องตัว - ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร
สำหรับการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางไกลๆ ผู้โดยสารอาจรู้สึกไม่สะดวกสบาย เนื่องจากการจัดเรียงเบาะที่อาจทำให้รู้สึกอึดอัด
Ineos Grenadier: การผสมผสานที่ลงตัว
Ineos Grenadier ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น SUV หรูหราสำหรับการขับขี่ในเมือง แต่มันถูกสร้างขึ้นเพื่อการเดินทางที่ไม่ธรรมดา! Sir Jim Ratcliffe เจ้าของบริษัท Ineos ซึ่งเป็นนักผจญภัยที่มีประสบการณ์จากการเดินทางทั่วโลก ได้ลงทุนกว่า 1.3 พันล้านปอนด์ในการสร้างรถยนต์นี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่ต้องการรถที่พร้อมลุยทุกพื้นที่ในโลก
เครื่องยนต์และสเปค
Ineos Grenadier มีให้เลือกสองเครื่องยนต์:
- เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 283 แรงม้า
- เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 248 แรงม้า
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีการส่งกำลังที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานออฟโรดโดยเฉพาะ
ความท้าทายจากคู่แข่ง
ถึงแม้ Grenadier จะได้รับคำชมเรื่องความทนทานและสมรรถนะในการขับขี่ออฟโรด แต่คู่แข่งที่สำคัญอย่าง Toyota Land Cruiser และ Land Rover Defender ยังคงเป็นรถที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนี้ ด้วยความง่ายในการซ่อมบำรุงและอะไหล่ที่หาง่าย
ราคาของ Ineos Grenadier
แม้ว่าราคาเริ่มต้นของ Grenadier จะอยู่ที่ 76,000 ปอนด์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ความทนทานและความสามารถในการใช้งานที่เหนือชั้นก็ยังคุ้มค่า
การขับขี่
การขับขี่ของ Grenadier สามารถทำได้ดีในทุกสภาพการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือการเดินทางออฟโรด แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในด้านความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร แต่มันก็ไม่ทำให้ผิดหวังในแง่ของความทนทานและความสามารถในการลุย
สรุป
Ineos Grenadier คือรถที่เกิดมาเพื่อการผจญภัยและความทนทาน ถ้าคุณต้องการรถที่พร้อมลุยทุกสภาพแวดล้อม โดยไม่หวังให้มันเป็นรถยนต์หรูหราเหมือน SUV ทั่วไป มันคือคำตอบที่ใช่! แต่ถ้าคุณมองหาความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมือง หรือฟีเจอร์เทคโนโลยีมากมาย Grenadier อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ
Cr.topgear