ชนหนัก รื้อคาน กรอไมล์ หมกเม็ด กดราคา สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ผู้ซื้อขายรถยนต์มือสองต้องพบเจอ ซึ่งทำให้หลายๆ คนกลัวการซื้อรถมือสอง เพราะต้องยอมรับกันตรงๆ ว่าพ่อค้ารถมือสองหลายเจ้านั้นไม่ซื่อสัตย์กับผู้ซื้อ มีการ “ย้อมแมว” รถยนต์มือสองที่มีปัญหาเพื่อให้ขายได้ ซึ่งแน่นอนว่าหากลูกค้าซื้อรถยนต์ไปแล้วเจอกับปัญหาที่หมกเม็ดเอาไว้ พ่อค้ารถเหล่านี้ก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบในทันที ซึ่งในวันนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆ ในการเลือกซื้อรถยนต์มือ 2 ให้ปลอดภัยและได้รถยนต์สภาพดีในราคาที่สมเหตุผล ว่าต้องตรวจสอบและดูในจุดไหนกันบ้างมาฝากทุกท่านกันครับ
ซื้อรถยนต์มือสองกับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจสภาพ 175 จุด พร้อมรับประกัน 1 ปีเต็ม ราคาคงที่ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 30 วัน
นึกถึงรถยนต์มือสองต้อง CARSOME.co.th
1.เอกสารประจำรถ – เป็นสิ่งแรกที่ผู้ที่ซื้อรถยนต์มือสองควรตรวจสอบ โดยควรตรวจเช็กเลขเครื่องยนต์ รวมถึงเลขตัวถังว่าตรงกับที่ระบุในเล่มทะเบียนหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบวัน เดือน ปี ที่จดทะเบียนรถยนต์คันนั้นๆอีกด้วย เนื่องจากอาจมีการ ลากจด เพื่อให้รถยนต์คันนั้นๆมีปีจดทะเบียนที่ใหม่กว่าความเป็นจริง
2.สภาพตัวถัง – ตรวจสอบบริเวณจุดเชื่อมตัวถัง รวมถึงบริเวณคานหน้ารถ หากพบว่ามีร่องรอยการขันน็อต การซ่อมแซม หรือการทำสีใหม่ อาจสันนิษฐานได้ว่ารถคันนี้อาจเคยเกิดอุบัติเหตุหนักและผ่านการซ่อมแซมมาแล้ว
3.ห้องเครื่อง – ตรวจเช็กชิ้นส่วนต่างๆ ที่อยู่ในห้องเครื่องว่ายังอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน อาทิ สายพานหน้าเครื่องต้องไม่มีรอยแตกหรือความเสียหาย รวมถึงตรวจเช็กของเหลว เช่นน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำยาหล่อเย็น ต้องมีสภาพดี ไม่มีสิ่งเจือปนหรือสีที่ผิดเพี้ยน
4.ภายใน – เริ่มแรกควรตรวจเช็ก รอยแตก รอยแยก รอยชำรุดต่างๆ ของแผงคอนโซลและเบาะนั่ง หน้าปัดเรือนไมล์ต้องแสดงผลได้ครบทุกตำแหน่ง รวมถึงระบบไฟฟ้าทั้งหมด เช่น กระจกไฟฟ้า เครื่องเสียง ระบบเซ็นทรัลล็อก ต้องสามารถใช้งานได้อย่างปกติ
5.เลขไมล์ – การตรวจสอบเลขไมล์ (ระยะทางที่วิ่งไป) ของรถมือสองนั้นสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อได้ ซึ่งบริษัทรถยนต์บางแบรนด์คุณสามารถนำเลขตัวถังเข้าไปเช็กประวัติการเซอร์วิสที่ศูนย์บริการ หากพบว่าตัวรถมีการซ่อมใหญ่จากการเกิดอุบัติเหตุ หรือเลขไมล์ในระบบของศูนย์บริการนั้นเกินกว่าเลขไมล์ที่หน้าจอรถคันนั้นๆแสดง (ผ่านการกรอไมล์มาแล้ว) ควรหลีกเลี่ยงรถยนต์เหล่านี้เนื่องจากเสี่ยงที่จะเจอรถยนต์ที่มีสภาพไม่สมบูรณ์
6.ช่วงล่าง – ลองก้มดูบริเวณโช๊คอัพว่ามีรอยคราบน้ำมันซึมเยิ้มออกมาหรือไม่ รวมถึงลองยกรถขึ้นจากนั้นให้โยกล้อเข้าออก เพื่อตรวจสอบสภาพของลูกหมาก และทดลองขับโดยลองขับในทางขรุขระ รวมถึงลองเลี้ยวกลับรถดูว่ามีเสียงที่ผิดปกติหรือไม่
7.เครื่องยนต์ – ให้สตาร์ทเครื่องยนต์เดินเบาไว้สัก 5-10 นาที เพื่อดูว่าเครื่องยนต์เดินนิ่งหรือไม่ และต้องไม่มีเสียงที่ดังผิดปกติ ตรวจเช็กระดับความร้อนต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมถึงต้องไม่มีกลิ่นและควันที่ผิดปกติ
8.ระบบส่งกำลัง – หลังจากลองสตาร์ทเครื่องเพื่อฟังเสียงที่ผิดปกติแล้ว จากนั้นให้ทดลองขับ หากเกียร์มีการตอบสนองที่ผิดปกติ มีอาการกระตุก สั่น เข้าเกียร์ได้ยาก หรือมีเสียงหอนจากเกียร์ นั่นอาจหมายถึงเกียร์ในรถยนต์คันนั้นเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
จากที่กล่าวมาทั้ง 8 ข้อนั้น หากคุณเป็นคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการตรวจสภาพรถยนต์มือสองอยู่แล้วก็ถือได้ว่าเป็นของกล้วยๆ ที่สามารถทำได้ แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์มือสอง แต่ไม่อยากถูกย้อมแมว เราอยากแนะนำให้คุณรู้จัก CARSOME แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองแบบครบวงจร ที่มีการรับประกันและตรวจสภาพของตัวรถอย่างละเอียดรอบคันถึง 175 จุดทุกคัน ซึ่งรับประกันว่ารถยนต์ที่ผ่านการตรวจสอบโดย CARSOME นั้นจะไม่ผ่านการย้อมแมว ชนหนัก น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือหมกเม็ดแต่อย่างใด เพราะช่างชำนาญการของ CARSOME ได้ทำการตรวจสอบโดยละเอียดให้กับท่านเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จัก CARSOME กันดีกว่าว่า CARSOME คือใคร และทำไมถึงควรเลือกซื้อ ขายรถยนต์มือสองผ่านแพลตฟอร์มนี้
CARSOME คือใคร ?
CARSOME เป็นบริษัท Startup จากมาเลเซียที่เปิดตัวในฐานะยูนิคอร์นในปี 2015 โดยระดมทุนได้ถึง US$350,000 ในช่วง Seed Funding ก่อนที่จะขยายสาขาเข้ามาในประเทศไทยในปี 2017 ซึ่งในปัจจุบันดำเนินธุรกิจใน 4 ประเทศได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
นอกจากนั้น CARSOME ที่มาเลเซียยังได้เปิดให้บริการศูนย์ซ่อมบำรุงและรักษายานยนต์ครบวงจรอย่าง ศูนย์ปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์มือสอง หรือ CARSOME Certified Lab ในประเทศมาเลเซีย ขณะที่ ประเทศไทยเองก็กำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมความพร้อมสำหรับ CARSOME Certified Lab ประเทศไทย ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 20,780 ตร.ม. และสามารถปรับสภาพและซ่อมบำรุงรถยนต์มือสองได้สูงถึง 3,000 คันต่อเดือน คาดว่าอีกไม่นานเกินรอก็จะได้เปิดตัวให้ชาวไทยได้เห็นกันอย่างแน่นอน
ทำไม? คุณถึงต้องซื้อรถยนต์มือสองกับ CARSOME
หากคุณกำลังคิดว่า “ซื้อขายรถยนต์มือสองที่ไหนก็ได้เหมือนกัน” คุณอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะที่ CARSOME เรามีบริการสุดพิเศษที่จะช่วยให้การซื้อขายรถยนต์มือสองของคุณปลอดภัยไร้กังวลด้วยบริการดังต่อไปนี้
- รถยนต์ทุกคันที่ผ่านการคัดสรรโดย CARSOME จะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยช่างชำนาญการมากถึง 175 จุด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่ารถที่ซื้อไปมีสภาพดี คุ้มค่าทั้งในด้านราคาและคุณภาพ ไม่มีการชนหนัก น้ำท่วมหรือไฟไหม้แต่อย่างใด
- รถที่ CARSOME รับประกันคุณภาพ จะได้รับการรับประกันศูนย์ 1 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และเรายังมอบความอุ่นใจให้กับลูกค้า ด้วยการรับซื้อคืนเต็มจำนวน 100% ภายใน 30 วันหลังจากรับรถ หากลูกค้าไม่พอใจในคุณภาพตัวรถ
- ไม่ต้องปวดหัวเรื่องเอกสาร เพราะ CARSOME ดูแลเรื่องเอกสารทุกอย่างให้ตั้งแต่ต้นจนจบ
- ราคาคงที่ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายแอบแฝงเพิ่มเติม
วิธีเลือกซื้อรถยนต์มือสองกับ CARSOME
CARSOME ช่วยให้คุณสามารถซื้อรถมือสองได้ง่ายๆด้วยปลายนิ้วคุณผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ง่ายๆเพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น
1.เลือกรถและจองรถออนไลน์
ขั้นตอนแรกให้คุณเข้าไปที่เว็บไซต์ www.carsome.co.th จากนั้นคุณจะเจอกับหน้าจอลักษณะนี้
จะเห็นได้ว่ามีหน้าต่างแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกทางด้านซ้ายคือค้นหารถยนต์มือสองสาหรับผู้ที่ต้องการซื้อ และช่องฝั่งขวาจะเป็นช่องสาหรับผู้ที่ต้องการขายรถ ซึ่งในวันนี้เราจะพูดถึงการซื้อรถยนต์มือ 2 เป็นหลัก
โดยในเมนู “ซื้อรถยนต์” นั้นจะมีช่องสำหรับให้เราใส่ชื่อแบรนด์และรุ่นรถยนต์ที่ต้องการค้นหา หรือหากไม่ได้ดูรุ่นไหนเฉพาะเจาะจงก็สามารถเลือกตามแบรนด์รถยนต์, ตามงบประมาณของคุณลูกค้า หรือตามประเภทของรถยนต์ที่ต้องการ ซึ่งเรามีรถยนต์ทุกประเภทเพื่อรองรับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ซีดาน, แฮทช์แบค, SUV, MPV, รถกระบะ และอื่นๆอีกมากมาย โดยในวันนี้เราจะยกตัวอย่างการซื้อรถยนต์ Toyota ALTIS
เมื่อกดเลือกรุ่นที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว จะเจอกับหน้าต่างที่แสดงรถยนต์รุ่นที่ท่านต้องการทั้งหมด โดยจะมีตัวเลือกเพื่อคัดกรองอย่างละเอียดไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ, ปีรถ, ระบบเกียร์, เลขไมล์(ระยะทางที่วิ่งไป), และสีของตัวรถ ซึ่งเราจะลองค้นหารถ Toyota ALTIS รุ่นปี 2020 สีขาว และมีระยะทางที่วิ่งไปไม่เกิน 40,000 กิโลเมตรเท่านั้น
เมื่อกรอกข้อมูลลงไปแล้ว ตัวเว็บไซต์จะแสดงผลเจาะจงตามข้อมูลที่เรากรอกลงไป โดยจะเห็นได้ว่ามีรถยนต์ที่ตรงตามที่ต้องการทั้งหมด 10 คัน
เมื่อกดเข้ามาดูรายละเอียดของรถยนต์แต่ละคันแล้ว จะพบกับข้อมูลโดยละเอียดของรถคันนั้นๆไม่ว่าจะเป็น ชื่อแบรนด์, ชื่อรุ่น, รูปภาพมุมต่างๆของตัวรถ, รุ่นย่อย, ปีของตัวรถ, วันที่จดทะเบียน, สี, ระยะทางที่วิ่งไป, ระบบเกียร์, ราคา, ยอดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี รายงานการตรวจสภาพทั้ง 175 จุดทั่วทั้งคันเพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์คันนี้มีสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้งาน ซึ่งคุณสามารถดูข้อมูลการตรวจสภาพอย่างละเอียดได้โดยการคลิกปุ่ม “ดูรายงานฉบับเต็ม” เพื่อดูรายการอย่างละเอียด
เมื่อเลื่อนลงมาด้านล่างจะพบกับหัวข้อ การเงิน ซึ่งเราสามารถกำหนดเงินดาวน์และระยะเวลาการผ่อนชำระได้ ซึ่งตัวระบบจะประเมินค่าผ่อนชำระรายเดือนให้โดยอัตโนมัติ
2.ทดลองขับ
หลังจากที่เลือกรถยนต์ที่ถูกใจได้แล้ว ให้คลิกที่ปุ่มทดลองขับหรือจองตอนนี้ (ปุ่มสีเหลือง) ซึ่งจะพบกับหน้าต่างที่มีตัวเลือกทั้งหมด 3 ตัวเลือกได้แก่
- จองและรักษาความปลอดภัยรถของคุณ – เพื่อเป็นการจองรถยนต์คันที่คุณต้องการไว้ก่อน ซึ่งเมื่อจองเสร็จแล้วคุณสามารถใช้บริการทดลองขับที่บ้านฟรี โดยจะมีเจ้าหน้าที่นำรถยนต์คันที่คุณต้องการมาให้เราทดลองขับฟรีถึงหน้าบ้าน เพื่อทดสอบความสมบูรณ์ของตัวรถก่อนซื้อจริง และรถคันดังกล่าวจะขึ้นสถานะ “จอง” เป็นเวลา 5 วันเพื่อไม่ให้ลูกค้าท่านอื่นมาทดลองขับรถคันที่เราต้องการ โดยการจองจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 5,000 บาท และถ้าหากเราไม่พอใจสภาพของตัวรถ ก็สามารถขอคืนเงินได้เต็มจำนวน 100%
- นัดทดลองขับฟรี – โดยเราสามารถเข้าไปทดลองขับรถยนต์คันที่เราต้องการได้ฟรี ณ ศูนย์บริการครบวงจรของ CARSOME แต่ตัวรถจะยังคงขึ้นสถานะ “ว่าง” ซึ่งลูกค้าท่านอื่นจะสามารถเข้ามาทดลองขับรถคันเดียวกันหรือซื้อรถยนต์คันดังกล่าวได้นั่นเอง
- ติดต่อเรา – สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเลือกตัวเลือกนี้เพื่อติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ CARSOME โดยตรง
3. เอกสารและไฟแนนซ์
หลังจากที่เราได้ทดลองขับรถคันที่ต้องการเรียบร้อย และตกลงที่จะซื้อรถยนต์คันดังกล่าว ทาง CARSOME จะมีบริการดำเนินการเอกสารแบบครบวงจรให้ฟรี และแน่นอนว่าราคาที่แจ้งเป็นราคาสุทธิแล้ว ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแอบแฝงแต่อย่างใด
4.รับรถ
หลังจากผ่านขั้นตอนในเรื่องของเอกสารและไฟแนนซ์แล้ว คุณสามารถเลือกได้ว่าจะเข้ามารับรถที่ศูนย์บริการ CARSOME หรือจะให้ทางเรานำรถไปส่งให้คุณที่บ้านก็ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
วิธี “ขาย” รถยนต์มือสองกับ CARSOME
เราพูดถึงวิธีการ “ซื้อ” ไปแล้ว มาต่อกันที่วิธีการ “ขาย” รถยนต์มือสองกับ CARSOME กันบ้าง ซึ่งวิธีการก็ง่ายมากๆ เพียงแค่เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ www.carsome.co.th จากนั้นเลือกไปที่เมนู “ขายรถยนต์” ซึ่งจะมีช่องให้กรอกข้อมูลยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ที่ต้องการขาย และเบอร์โทรศัพท์สาหรับลงทะเบียนขาย
เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะเจอกับหน้าต่างที่ให้เราเลือกว่าเราจะนำรถยนต์เข้าไปตรวจสภาพและตีราคากับ CARSOME ที่ศูนย์บริการไหน วันไหนและเวลาใด โดยจะมีศูนย์บริการของ CARSOME ให้เลือกทั้งหมด 11 สาขาทั่วกรุงเทพ และใช้เวลาในการตรวจสภาพและประเมินราคาภายใน 30 นาทีเท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ท่านนำรถยนต์เข้าไปตีราคาได้สะดวกมากที่สุด
และทั้งหมดนี้ เป็นวิธีการใช้งานเว็บไซต์ซื้อขายรถยนต์มือสอง www.carsome.co.th ที่ต้องบอกตามตรงเลยว่าทั้งง่าย ทั้งสะดวกรวดเร็ว แถมยังได้รถยนต์ที่ถูกใจสภาพดีพร้อมกับการรับประกัน 1 ปีเต็ม ในราคาที่สมเหตุผล เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ
นอกจากนี้เรายังมีแอปพลิเคชัน CARSOME เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณลูกค้าทุกท่าน โดยสามารถเข้าไปที่ App Store / Google Play หรือ AppGallery (สำหรับโทรศัพท์ Huawei) จากนั้นพิมพ์ CARSOME ลงไปในช่องค้นหา เพียงแค่นี้ก็จะเจอกับแอปพลิเคชัน CARSOME โลโก้สีเหลือง ก็สามารถกดดาวน์โหลดเพื่อใช้งานแอพพลิเคชั่นได้เลยครับ
สำหรับท่านที่สนใจซื้อขายรถยนต์มือสองกับ CARSOME สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.carsome.co.th เพื่อค้นหารถยนต์ที่ถูกใจได้เลยครับ หรือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-171-8655
ทุกครั้งที่ต้องการซื้อหรือขายรถยนต์มือสอง อย่าลืมนึกถึง CARSOME นะครับ !!