เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศเปิดตัวแพลทฟอร์มอิเลคโทรนิครุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับรถยนต์เจนเนอเรชั่นต่อไป รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน ระบบการเชื่อมต่อ รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ซูเปอร์ ครูส เทคโนโลยี และความก้าวล้ำอื่นๆ
ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์และรถยนต์จะมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด ในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า ความสามารถในการรับ-ส่งข้อมูลทางไฟฟ้า (bandwidth) และการเชื่อมต่อจะมีความจำเป็นมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าฟีเจอร์สำคัญอย่างระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ซูเปอร์ ครูส (Super Cruise) และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุที่ล้ำสมัยจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
รถยนต์รุ่นแรกที่จะใช้แพลทฟอร์มใหม่นี้คือ คาลิคแลค ซีที5 ปี 2020 ซึ่งมีกำหนดขึ้นสายการผลิตภายในปี 2019 โดยแพลทฟอร์มรุ่นใหม่นี้ยังจะถูกใช้งานกับรถยนต์ส่วนใหญ่ของจีเอ็มที่จะออกวางจำหน่ายทั่วโลกภายในปี 2023
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้พลังงานระบบอิเลคโทรนิครุ่นใหม่สามารถจัดการประมวลผลข้อมูลได้สูงสุด 4.5 เทราไบต์ต่อชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 5 เท่าเมื่อเทียบกับโครงสร้างทางไฟฟ้าของจีเอ็มที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ด้วยการขยายศักยภาพการอัพเดทซอฟต์แวร์แบบไร้สาย (OTA) ซึ่งเหมือนกับการอัพเดทซอฟท์แวร์สำหรับสมาร์ทโฟน ระบบนี้จึงรองรับการอัพเกรดการใช้งานได้ตลอดอายุใช้งานของรถยนต์
โครงสร้างใหม่ยังมอบการสื่อสารที่รวดเร็วฉับไวยิ่งขึ้นทั้งภายในตัวรถยนต์และกับแหล่งรับส่งสัญญาณภายนอก เนื่องจากการเชื่อมต่ออีเธอร์เน็ตที่มีความเร็ว 100 เมกะบิตต่อวินาที 1 กิกะบิตต่อวินาที และ 10 กิกะบิตต่อวินาที
“การทำงานของซอฟต์แวร์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อรถยนต์ของเราทั้งในปัจจุบันและในอีกหลายปีข้างหน้า” มาร์ก รอยส์ ประธานกรรมการ จีเอ็ม กล่าว “แพลทฟอร์มรถยนต์ดิจิทัลรุ่นใหม่ของเรา และรุ่นต่อๆ ไปจะเสริมสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้แก่นวัตกรรมทั้งหมดของเราในอนาคตในทุกความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่มีการขยายตัว”