แม้ยอดขายในสหรัฐฯ จะซบเซา แต่ Ford Mustang ยังคงถูกมองว่าเป็นรถสปอร์ตที่มีอนาคตสดใสในตลาดโลก หลังจาก Jim Farley ซีอีโอของ Ford ยืนยันว่า บริษัทกำลัง “ลงทุนอย่างมาก” เพื่อรักษาความแข็งแกร่งของตำนานม้าป่าเอาไว้
Mustang ยอดขายในสหรัฐฯ ลดลง แต่ต่างประเทศยังโต

ในครึ่งแรกของปี 2025 Ford ทำยอดขาย Mustang ในอเมริกาได้เพียง 23,551 คัน ลดลงกว่า 14.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2024 แต่ Farley เปิดเผยผ่านพอดแคสต์กับ The Verge ว่า ปัจจุบัน Mustang ขายดีในตลาดต่างประเทศมากกว่าสหรัฐฯ แล้ว ทำให้ Ford มั่นใจและเดินหน้าลงทุนต่อ

Farley กล่าวเสริมว่า “จริง ๆ แล้ว Mustang ไปได้สวยมาก เรายังเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่เหลืออยู่ในตลาดกลุ่มนี้ และเราภูมิใจกับสิ่งนั้น Mustang เป็นรถระดับโลก และยังคงเป็นรถสปอร์ตคูเป้ที่มียอดขายดีที่สุดในโลก”
การปรับตัวสู่อนาคต: รุ่นใหม่และพลังงานทางเลือก

แม้ ECU ของ Mustang รุ่นใหม่ (S650) จะถูกล็อกและทำให้การจูนแต่งทำได้ยาก แต่ล่าสุดมีการเปิดโดย HP Tuners ทำให้สายแต่งเริ่มมีโอกาสมากขึ้น ขณะเดียวกัน กระแสข่าวยังบอกว่า Ford กำลังเตรียมขยายไลน์อัพ Mustang มากกว่าที่เป็นอยู่

รุ่นที่มีข่าวลือว่าจะมา
-
Mustang Mach 4: รถซีดานคูเป้ 4 ประตู ที่เคยมีรายงานว่าโชว์ให้ตัวแทนจำหน่ายบางรายเห็นแล้ว
-
Mustang Off-Road / Baja Style: รุ่นยกสูงสายลุย ล้อใหญ่พร้อมช่วงล่างสมบุกสมบัน
-
EcoBoost RTR: รุ่นที่ร่วมพัฒนากับ RTR ซึ่งเปิดตัวไปแล้วที่งาน Detroit Auto Show 2025
นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ Mustang จะได้ใช้ระบบ Hybrid เพื่อให้ผ่านข้อกำหนดมลพิษที่เข้มงวดในยุโรปและหลายประเทศทั่วโลก แม้จะขัดใจกับสาวกสายพันธุ์แท้ แต่ถือว่าเป็นแนวทางที่จำเป็นต่อการอยู่รอด

Mustang เครื่องยนต์สันดาปยังอยู่ยาว

สำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่กลัวว่าม้าป่าจะกลายเป็น EV ทั้งหมด ไม่ต้องกังวล เพราะรายงานล่าสุดยืนยันว่า Mustang เครื่องยนต์เบนซินจะยังขายไปถึงทศวรรษ 2030 และ Farley เองก็เคยพูดว่า จะไม่มี Mustang EV (ไม่นับ Mach-E ที่ใช้ชื่อ Mustang)
สรุป
แม้ยอดขายในอเมริกาจะลดลง แต่ Ford Mustang ยังคงมีฐานแฟนคลับทั่วโลกและมียอดขายดีในหลายประเทศ การลงทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะต่ออายุรถสปอร์ตระดับตำนาน แต่ยังอาจต่อยอดไปสู่รุ่นใหม่ ๆ ทั้งแบบซีดาน, ออฟโรด และไฮบริด เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่หลากหลายขึ้น
สำหรับสาวกม้าป่า ไม่ว่าจะเป็น Mustang ตัวจริงหรือรุ่นแตกไลน์ใหม่ ๆ คงได้เห็นกันแน่นอนในอนาคตอันใกล้
แหล่งที่มา : motor1









Comments are closed