Ferrari ไม่เคยหยุดสร้างความประหลาดใจให้กับโลกยานยนต์เลยจริง ๆ จากซูเปอร์คาร์รุ่นพิเศษนับไม่ถ้วน รถ SUV เครื่อง V12 ที่มาพร้อมประตูแบบ Suicide Door ไปจนถึงการประกาศผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในอนาคต ล่าสุด Ferrari ได้ก้าวเข้าสู่โลก NFT (Non-Fungible Token) ด้วยผลงานการออกแบบสุดล้ำในชื่อ Ferrari F76 — รถที่ “ไม่มีอยู่จริง”
Ferrari F76: รถ NFT คันแรกที่สร้างขึ้นเพื่อโลกดิจิทัล

Ferrari F76 ไม่ได้เป็นรถต้นแบบจริง ๆ แต่เป็น “ผลงานจินตนาการ” ที่สร้างขึ้นเพื่อสมาชิกระดับพรีเมียมของโปรแกรม Ferrari Hyperclub เท่านั้น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สมาชิกกลุ่มนี้สามารถเลือกดีไซน์ของรถเสมือนจริงของตัวเองได้เต็มที่ โดยรู้ตั้งแต่แรกว่า F76 จะไม่มีวันถูกผลิตออกมาขับบนถนนจริง

Ferrari เรียก F76 ว่าเป็น “รถคันแรกที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับโลกดิจิทัลในรูปแบบ NFT” ถึงแม้แบรนด์ Alpine (ภายใต้ Renault) จะเคยเปิดตัวคอนเซ็ปต์คล้ายกันในชื่อ GTA Concept ตั้งแต่ 4 ปีก่อนก็ตาม
ส่องแนวทางการออกแบบ Ferrari ยุคใหม่

ผลงานชิ้นนี้ออกแบบโดยทีม Ferrari Styling Centre ภายใต้การนำของ Flavio Manzoni ดีไซน์สุดล้ำของ F76 ถูกตั้งใจให้เป็น “ต้นแบบแนวคิดการออกแบบ Ferrari ในอนาคต” หรือที่ Ferrari เรียกว่า “Design Manifesto”

ตัวรถมาในสไตล์ทรงเตี้ยแนวล้ำยุค เส้นสายเฉียบคมและสัดส่วนดูดุดัน มาพร้อมห้องโดยสารคู่ (Dual Cockpit) ที่มีพวงมาลัยและแป้นเหยียบแยกกันสำหรับผู้ขับทั้งสองฝั่ง ซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ไม่เคยมีมาก่อนในรถ Ferrari รุ่นใด

นอกจากนี้ ไฟหน้าแบบพับได้ (Retractable Headlights) ยังเป็นการคารวะให้กับรถรุ่นคลาสสิกของ Ferrari ในยุค 1980 ที่เคยใช้ไฟทรง Pop-up สุดไอคอนิก
สเปกเครื่องยนต์ไม่มี แต่ Ferrari ยังไม่ลืมเครื่องยนต์สันดาป

แม้ F76 จะเป็นเพียงรถในโลกเสมือน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Ferrari ยังออกแบบให้มันมี เครื่องยนต์สันดาป (Combustion Engine) แทนที่จะเป็น EV อย่างที่หลายคนคาดไว้ เพราะด้านท้ายของตัวรถยังมี “ท่อไอเสีย” ซ่อนอยู่ในดีไซน์ทรงสามเหลี่ยม

Ferrari เองเพิ่งยืนยันไปไม่นานมานี้ว่าจะยังคงพัฒนาเครื่องยนต์ V6, V8 และ V12 ต่อไปในอนาคต ดังนั้นการที่ F76 ยังคงกลิ่นอายของเครื่องยนต์จริงก็อาจเป็นการสื่อว่า “Ferrari จะไม่ละทิ้ง DNA ดั้งเดิมของตัวเอง”
แรงบันดาลใจจากชัยชนะที่เลอม็อง

ชื่อ “F76” มีที่มาจากการครบรอบ 76 ปีแห่งชัยชนะครั้งแรกของ Ferrari ในรายการ 24 Hours of Le Mans ปี 1949 ซึ่งในครั้งนั้น Luigi Chinetti และ Lord Selsdon ขับ Ferrari 166 MM เครื่อง V12 คว้าชัยได้สำเร็จ ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งตำนานม้าลำพอง
NFT ยังน่าสนใจอยู่ไหมในปี 2025?

แม้กระแส NFT จะดูซาลงไปแล้วในช่วงปี 2025 แต่ Ferrari ก็ยังเลือกใช้แนวคิดนี้ในการโชว์ “วิสัยทัศน์แห่งอนาคต” ของตนเอง ถึงแม้จะมีเสียงวิจารณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงทางดีไซน์ที่ค่อนข้างสุดโต่งเมื่อเทียบกับ Ferrari ในยุคก่อนหน้า แต่ยอดจองของแบรนด์ก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Ferrari F76 จึงไม่ใช่แค่ผลงานศิลป์ในโลกดิจิทัล แต่ยังเป็น “หน้าต่างสู่อนาคต” ที่เผยให้เห็นทิศทางการออกแบบของ Ferrari ในยุคถัดไป
สรุป: F76 คือภาพสะท้อนอนาคต Ferrari
Ferrari F76 อาจไม่มีอยู่จริงในโลกแห่งความเป็นจริง แต่มันคือสัญลักษณ์ที่สะท้อนว่า Ferrari พร้อมจะผสมผสาน เทคโนโลยีดิจิทัล + จิตวิญญาณแห่งความเร็ว เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ไม่ว่าจะเป็นในสนามแข่ง โลกเสมือน หรือโชว์รูมจริง “Ferrari” ก็ยังคงยืนหยัดในฐานะแบรนด์ที่กล้าสร้างตำนานบทใหม่เสมอ
แหล่งที่มา : motor1









Comments are closed