Ferrari ออกมายอมรับรู้สึกไม่ชอบกับการที่ต้องเพิ่มน้ำหนักให้กับซูเปอร์คาร์ เพียงเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีไฮบริด
เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Autocar ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ Michael Leiters ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของเฟอร์รารี่ เกี่ยวกับอนาคตของบริษัท และถามความเห็นเกี่ยวกับปัญหาของ Ferrari SF90 Stradale ซูเปอร์คาร์ไฮบริดรุ่นใหม่ของค่าย ซึ่งมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 250 กก. เนื่องจากการติดตั้งระบบไฮบริด
“มันเจ็บปวดนะกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 250 กก. เมื่อติดตั้งระบบไฮบริด เห็นได้ชัดว่าเราไม่สามารถชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มมากถึง 250 กก.ได้ นั่นจึงทำให้เราต้องหันมาใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์บนตัวถังและแชสซีแทน” Leiters กล่าว “สำหรับรถที่มีพละกำลังเกือบ 1,000 แรงม้า อัตราเร่งอาจไม่ใช่ปัญหา แต่ความคล่องตัวและการตอบสนอง จะเป็นอย่างไรเมื่อรถมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น”
Leiters กล่าวต่อว่า “สิ่งที่สำคัญคือฐานล้อ เราเลือกที่จะไม่ขยายฐานล้อ และทำให้รถมีจุดศูนย์ต่ำที่สุด อย่างไรก็ตามมอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่เพลาหน้านั้นมีน้ำหนักถึง 65-70 กก. เราจึงต้องใช้ Torque vectoring ควบคุมแรงบิดเพื่อให้ตัวรถยังคงให้ความเร้าอารมณ์ในการขับขี่เหมือนเดิม”
Ferrari SF90 Stradale มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ความจุ 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 769 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบไฮบริดที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวจะถูกติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์ V8 และเกียร์ดูอัลคลัตช์แบบ 8 สปีดใหม่ ขณะที่อีก 2 ตัวจะอยู่ที่เพลาหน้า
มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 7.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผลิตกำลังได้ 217 แรงม้า และเมื่อกำลังทั้งหมดถูกถ่ายทอดไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ SF90 Stradale จะมีพละกำลังสูงถึง 986 แรงม้าเลยทีเดียว