Ferrari เปิดตัว 849 Testarossa รถยนต์ที่มาพร้อมกับ 1,036 แรงม้า เพื่อมาแทนที่ SF90 ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ในวงการซูเปอร์คาร์มาแล้ว แล้วรถรุ่นใหม่นี้จะยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งที่น่ากลัวได้หรือไม่? บทความนี้จะเจาะลึกทุกรายละเอียดที่น่าสนใจของ Testarossa เพื่อหาคำตอบให้คุณ
การอัปเกรดที่สำคัญ: ขุมพลังไฮบริดที่ดุดันยิ่งขึ้น

หัวใจหลักของ Testarossa ยังคงเป็นเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เสริมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัวเหมือนกับ SF90 แต่มีการอัปเกรดเครื่องยนต์ให้มีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 50 แรงม้า ด้วยการติดตั้ง เทอร์โบที่ใหญ่ขึ้น, อินเตอร์คูลเลอร์ที่ปรับปรุงใหม่, ฝาสูบและบล็อกเครื่องยนต์ที่แตกต่างออกไป นอกจากนี้ยังมีการใช้วัสดุไทเทเนียมเพื่อลดน้ำหนัก ทำให้รถมีกำลังรวมอยู่ที่ 1,036 แรงม้า ในขณะที่น้ำหนักรถไม่เพิ่มขึ้นจากเดิม

การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ Testarossa มีสมรรถนะที่น่าทึ่ง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 2.25 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 6.3 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วสุดๆ นอกจากนี้ยังทำเวลาต่อรอบที่สนาม Fiorano ได้เร็วกว่า SF90 ถึง 1.5 วินาที และใกล้เคียงกับรุ่น SF90 XX เลยทีเดียว
ดีไซน์ที่โดดเด่นและหลักอากาศพลศาสตร์ที่เหนือกว่า

Ferrari 849 Testarossa มาพร้อมดีไซน์ที่ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับกลิ่นอายของ Ferrari ยุคคลาสสิกอย่าง F80, Daytona และ 308 ด้านหน้าถูกออกแบบมาในลักษณะสองชั้นพร้อมครีบอากาศที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศอย่างชัดเจน ส่วนท้ายเป็นจุดที่สะดุดตาที่สุด ด้วยการออกแบบแบบ ‘twin-tail’ (หางคู่) ที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้กับรถได้มากถึง 415 กิโลกรัมที่ความเร็ว 250 กม./ชม.
เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ที่ควบคุมได้

นอกจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมแล้ว Testarossa ยังอัดแน่นด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย เช่น Side Slip Control เวอร์ชัน 9.0 และระบบ Ferrari Integrated Vehicle Estimator (FIVE) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถสร้างแบบจำลองการขับขี่แบบเรียลไทม์ ทำให้รถสามารถคาดการณ์และปรับปรุงการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ ระบบเหล่านี้ช่วยให้การควบคุมกำลังกว่า 1,000 แรงม้าเป็นไปได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยมากขึ้น
ราคาและแพ็คเกจเสริม

Ferrari 849 Testarossa มีราคาเริ่มต้นที่ 460,000 ยูโร สำหรับรุ่น Coupe และ 500,000 ยูโร สำหรับรุ่น Spider หากต้องการสมรรถนะสูงสุด คุณสามารถเลือกแพ็คเกจ Assetto Fiorano ที่เพิ่มชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์, ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต และยาง Michelin Cup2 ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักรถได้ถึง 30 กิโลกรัม และมีราคาแพ็คเกจอยู่ที่ 52,500 ยูโร
สรุป: อนาคตของซูเปอร์คาร์ไฮบริด

Ferrari 849 Testarossa ไม่ได้เป็นแค่การอัปเกรดเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นการพัฒนาครั้งใหญ่ที่ทำให้รถคันนี้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของซูเปอร์คาร์ไฮบริดอย่างเต็มตัว แม้จะมีคู่แข่งอย่าง Lamborghini Revuelto และ Aston Martin Valhalla ที่กำลังจะเปิดตัวในไม่ช้า แต่ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เหนือชั้น, เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และดีไซน์ที่โดดเด่น ทำให้ Testarossa มีโอกาสสูงที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดได้อย่างแน่นอน









Comments are closed