ล่าสุด Elon Musk บอสใหญ่ของ Tesla ได้ออกมาประกาศ “ลดราคา” รถยนต์เทสล่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นการลดราคาครั้งที่ 6 ในปี 2023 ที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังได้ระบุว่า “สงครามราคารถยนต์ไฟฟ้า” กำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งเขาได้มี “แผนการรองรับ” ถึงปัญหาดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
โดยในปีไตรมาสที่หนึ่งของปี 2023 ที่ผ่านมาทางเทสล่าสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้สูงสุดที่นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา แต่เนื่องจากการประกาศลดราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขามีรายได้ลดลงราวๆ 1.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สี่ของปี 2022 ที่ผ่านมา
สาเหตุที่ทำให้เทสล่าจำเป็นต้องปรับลดราคาในสหรัฐอเมริกา นั่นก็เป็นเพราะมีคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Ford ที่มีรถไฟฟ้ารุ่นยอดฮิตอย่าง Mustang Mach-E ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายเป็นอันดับที่ 3 ในสหรัฐฯ (เป็นรองเพียงแค่ Tesla Model Y และ Model 3) ก็ปรับลดราคาเพื่อจูงใจลูกค้าเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายๆรุ่นที่มีคิวทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐทำให้ราคารถยนต์ในประเทศมีราคาสูงขึ้น รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ผู้คนเกิดความลังเลในการซื้อรถยนต์คันใหม่ ซึ่งการ “ลดราคา” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทางเทสล่าเลือกใช้ เพื่อกระตุ้นยอดขายของพวกเขา
นอกจากนี้ Elon ยังได้กล่าวอีกว่า หากเขาจำเป็นต้องลดราคาจน “แทบไม่มีกำไร” เขาก็จะทำ เนื่องจากทางบริษัทสามารถทำกำไรจากค่าบริการต่างๆหลังการขายไม่ว่าจะเป็น ระบบ Full Self Driving รวมถึงเทคโนโลยี Gigapress ซึ่งจะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีนัยยะสำคัญ รวมถึงยังลดเวลาที่ใช้ในการผลิตได้มาก ทำให้ทางผู้ผลิตมองว่าการขายรถในปริมาณที่มากจะช่วยให้บริษัทสามารถเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ได้นั่นเอง
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : edition.cnn.com / electrek.co