รถแข่ง Porsche 911 GT3 R เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดถูกเผยโฉมออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นขุมพลังเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ให้พละกำลังสูงสุด 565 แรงม้า ระบบอากาศพลศาสตร์ที่มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น และสมดุลของตัวรถเหนือระดับ
911 GT3 R เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถ Porsche 911 รุ่นตัวถัง 992 เจเนอเรชั่นล่าสุด และจะถูกส่งลงสู้ศึกตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล 2023 ซึ่งกระบวนการพัฒนาได้เกิดขึ้นเมื่อปี 2019 โดยมุ่งเน้นไปที่การยกระดับการขับขี่สำหรับนักแข่งมืออาชีพ หรือที่เรียกกันว่า gentleman drivers รวมทั้งเสริมประสิทธิภาพตัวรถให้มีความยืดหยุ่นสามารถรองรับ Balance of Performance (BoP) ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นเพื่อการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเน้นไปที่ความปราดเปรียวในการบังคับควบคุม และลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาให้แก่ทีมแข่ง
หัวใจของรถแข่งคันใหม่คือขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ระบายความร้อนด้วยน้ำ มาพร้อมเทคโนโลยี 4 วาล์วต่อสูบ และระบบจ่ายเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้ direct fuel injection ในส่วนของการปรับปรุงหลักคือความจุของกระบอกสูบ และขนาดเครื่องยนต์ของ 911 GT3 R ใหม่ ได้รับการขยายขนาดเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ จาก 3,997 ซีซี เป็น 4,194 ซีซี ผละผลิตกำลังได้สูงสุดกว่า 565 แรงม้า
เครื่องยนต์ 6 สูบรอบจัด ทำงานโดยปราศจากระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ วางตำแหน่งท้ายรถในรูปแบบดั้งเดิมสุดคลาสสิค โดยเครื่องยนต์ได้รับการขยับเอียงตัวขึ้นอีก 5.5 องศา สอดรับกับอุปกรณ์จัดเรียงกระแสอากาศใต้ท้องรถ underbody diffuser มากยิ่งขึ้น อุปกรณ์ส่วนควบต่าง ๆ อาทิ อัลเทอร์เนเตอร์ และคอมเพรสเซอร์ของระบบปรับอากาศ ถูกย้ายตำแหน่งไปด้านหน้า และเยื้องต่ำลงไปบริเวณพื้นที่ด้านหน้าเครื่องยนต์และชุดส่งกำลัง ซึ่งส่งผลเชิงบวกในแง่ของการสมดุลน้ำหนัก
รวมไปถึงระบบเกียร์ sequential 6 สปีดเพื่อสำหรับการแข่งขัน ยกมาจากรถแข่ง 911 GT3 Cup รุ่นปัจจุบัน แท่นเปลี่ยนเกียร์ Shift paddles control และ electronic shift drum actuator รับหน้าที่ควบคุมจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ
ระบบช่วงล่างของรถแข่ง 911 GT3 R ใหม่ ผ่านการปรับแต่งอย่างละเอียดในหลายจุดเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการขับขี่ โดยมีวัตถุประสงค์ในการเสริมความเฉียบคมให้การบังคับควบคุมพวงมาลัย ลดภาระที่จะส่งผลกระทบต่อการสึกหรอของยางหลัง รวมทั้งลดระยะเวลาที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลง set up ตัวรถ ส่วนประกอบ และแนวทางการแก้ไขด้านวิศวกรรมจำนวนมาก
911 GT3 R ใหม่ ยังมาพร้อมโครงสร้างน้ำหนักเบาที่ผลิตจากวัสดุ aluminium-steel composite สุดไฮเทค ดัดแปลงเป็นพิเศษเพื่อใช้กับรถแข่ง 911 GT3 R ภายใต้งานดีไซน์ของรถจากสายการผลิตปกติ ชิ้นส่วนตัวถังเกือบทั้งหมดผลิตจากวัสดุคาร์บอนน้ำหนักเบา ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้า และหลัง ประตู สเกิร์ตข้าง ปีกหลัง รวมทั้งหลังคารถ ในส่วนของซุ้มล้อผลิตจาก aramid fibres
นอกจากนี้ยังเน้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ โดยส่วนสำคัญคือชิ้นส่วนใต้ท้องรถบริเวณด้านหน้าของล้อ นับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งแผ่นปิดใต้ท้องแบบเรียบ และชุด diffuser หลัง การทำงานร่วมกันของทั้งคู่ช่วยเพิ่มแรงกดให้แก่ตัวรถโดยไม่ส่งผลต่อแรงต้านทานอากาศ ปีกหลังติดตั้งด้วยจุดยึดแบบ swan-neck มั่นใจได้ว่ากระแสอากาศจะวิ่งผ่านใต้ปีกอย่างเป็นระเบียบ
ความปลอดภัยคือสิ่งที่รถแข่ง 911 GT3 R ใหม่ให้ความสำคัญโดยไม่มีการลดหย่อนแม้แต่น้อย เบาะนั่งได้รับการปรับเลื่อนตำแหน่งเข้าใกล้ศูนย์กลางตัวรถยิ่งขึ้น ช่วยให้ Porsche ดัดแปลงตัวเบาะให้รองรับหลักสรีระศาสตร์ได้มากขึ้น รวมทั้งมีการปรับปรุงโครงสร้างนิรภัย roll cage และคานนิรภัยด้านข้าง side impact protection ตามกฎข้อบังคับล่าสุดของ FIA เช่นเดียวกับตัวแข่งรุ่นพี่ พวงมาลัย และแป้นเหยียบต่างๆ สามารถปรับระยะเพื่อให้เหมาะสมกับนักแข่ง
ไฟหน้า LED สมรรถนะสูง ของรถแข่ง 911 GT3 R ใช้เทคโนโลยี collimator ซึ่งปอร์เช่พัฒนาขึ้นสำหรับรถต้นแบบ LMDh 963 prototype ทำงานในลักษณะเดียวกับกระจก magnifying glass แต่เป็นการสะท้อนแบบย้อนกลับ ให้แสงสว่างเป็นบริเวณกว้าง ครอบคลุมพื้นที่ของเส้นทางในสนามแข่ง และได้รับการปรับปรุงเพิ่มขึ้นอย่างมากจากรุ่นก่อนหน้า
Michael Dreiser ผู้อำนวยการของแผนก Porsche Motorsport กล่าวว่า “รถแข่ง Porsche 911 GT3 R ใหม่ ต้องเข้ามารับบทบาทอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งในโมเดลรุ่นพี่ได้เคยเอาชนะได้เกือบทุกการแข่งขันที่มีในระดับของ GT3 ตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2019 โดยความสำเร็จอันโดดเด่นนั้นได้รวมเอาชัยชนะ overall ไว้ในการแข่งขันระยะยาว 24 ชั่วโมง ทั้งที่สนาม Nürburgring และสนาม Spa-Francorchamps จากฝีมือของเหล่าทีมแข่งอิสระของเรา โดยรถแข่งรุ่นก่อนหน้ามีคะแนนสะสมเป็นอันดับ 1 ของรุ่นในรายการ Daytona 24 ชั่วโมง และ Sebring 12 ชั่วโมง รถแข่งรุ่นใหม่ต้องพร้อมรับมือกับภารกิจที่หนักหน่วงของทีมแข่งอิสระทั้งหลาย”