คุณอาจมองดูความวุ่นวายของอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรปในปัจจุบันแล้วคิดว่าปัญหาเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นกับอเมริกา ประเทศนี้กำลังดำเนินการอย่างแข็งกร้าวเพื่อปกป้องตลาดรถยนต์ด้วยการเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน 100% หรือการแบนซอฟต์แวร์ซึ่งจะห้ามขายรถยนต์ประเภทนี้ในประเทศโดยเด็ดขาด จากนั้นคุณอาจคิดว่าปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว เพราะสหรัฐฯ กีดกันผู้เล่นรายใหม่จากจีนออกไปอย่างถาวร
แต่ความจริงก็คือมาตรการคุ้มครองทางการค้าเหล่านี้เป็นเพียงมาตรการชั่วคราวเท่านั้น และแม้แต่กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องนี้ หรืออย่างน้อยคนเก่งๆ ในธุรกิจก็เข้าใจ
ซึ่งนำไปสู่ Critical Materials ฉบับกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการสรุปข่าวเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมในช่วงเช้าของเรา นอกจากนี้ ยังมีข่าวอื่นๆ ในวันนี้: โปรแกรมการขายออนไลน์ของ Hyundai ร่วมกับ Amazon ดูเหมือนจะประสบปัญหา และเป็นอีกหนึ่งคำเตือนว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนนั้นแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ถึงกับไร้เทียมทาน
ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการที่เข้มงวดที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์จีนเข้ามาจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแล้ว มาตรการห้ามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายทศวรรษนี้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความมั่นคงของชาติโดยป้องกันไม่ให้รถยนต์ที่มีเทคโนโลยีสูง เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และมีกล้องติดรถยนต์เข้าไปสอดส่องหรือรวบรวมข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของประชาชน
แม้ว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ จะระบุว่ามาตรการดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายต่อต้านจีนอื่นๆ เช่น มาตรการภาษีก่อนหน้านี้ แต่ก็สามารถเห็นได้อย่างง่ายดายว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และนั่นคือแผนที่จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ซื้อเวลาในการผลิตรถยนต์ที่สามารถแข่งขันกับจีนได้
ทั้งหมดถูกต้องที่นี่ จีนมีข้อได้เปรียบอย่างมากในสองเรื่อง คือ แบตเตอรี่และซอฟต์แวร์ ประการแรกเป็นเพราะประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐฯ ใช้เวลาหลายสิบปีในการ Out Source ให้จีน และจีนใช้เวลาเท่าๆ กันในการผูกขาดตลาดในห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่ทั้งหมด นี่เป็นเหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ จำนวนมากขาดทุนมหาศาล นั่นคือไม่มีความเป็นเจ้าของต้นทุนแบตเตอรี่เหล่านี้ นอกจากนี้ จีนยังเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ในรถยนต์ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อกลยุทธ์ “ยานยนต์ที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์” ที่ Tesla เป็นผู้ริเริ่ม เมื่อรวมข้อดีเหล่านั้นเข้ากับต้นทุนแรงงานที่ถูกมาก คุณจะได้สูตรสำหรับรถยนต์ที่สามารถเหนือกว่าและตัดราคาของเราได้อย่างมาก
แต่หากผู้ผลิตรถยนต์เหล่านี้ถูกปิดประเทศจากสหรัฐฯ เป็นเวลาสองสามปี ตามทฤษฎีแล้ว นั่นจะทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ของเราและประเทศโดยรวมมีเวลาในการสร้างห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่น พัฒนาการผลิต EV ให้ดีขึ้น และพัฒนาซอฟต์แวร์โดยรวม
ผู้เขียนบทความนี้ได้เกิดความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแผนอันล้ำสมัยของ Hyundai ที่จะขายรถยนต์บน Amazon ซึ่งประกาศไปแล้วที่งาน Los Angeles Auto Show เมื่อปีที่แล้ว และนอกจากโปรแกรมนำร่องขนาดเล็กสำหรับพนักงานของ Amazon เท่านั้นแล้ว ยังไม่มีการขยายผลให้กว้างขวางขึ้นมากนัก
เรากำลังพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ แต่บางส่วนก็ดูมีเหตุผล เราคาดว่าตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บางส่วนจะต่อต้านแนวคิดการซื้อรถออนไลน์ เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บางรายอาจมองว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการวางรากฐานเพื่อกำจัดพวกเขาออกจากกระบวนการขาย อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการปฏิรูปทางกฎหมายครั้งใหญ่ เนื่องจากระบบแฟรนไชส์ของตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ได้ถูกนำมาใช้เป็นกฎหมายการขายรถยนต์ใหม่ในหลายรัฐแล้ว
Hyundai จะไม่มีวันพูดแบบนี้ แต่รู้สึกได้ว่าการตัดสินใจของ Amazon เกิดจากความผิดหวังจากข้อเท็จจริงที่ว่าตอนนี้บริษัทได้ผลิต EV ระดับโลกแล้ว แต่ก็มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายในสหรัฐฯ ที่มีชื่อเสียงพอสมควร ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายต่างต้องคิดหาทางออกกันหากโปรแกรมนี้จะผ่านพ้นขั้นตอนนำร่องไปได้
อย่าคิดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนเป็นอุตสาหกรรมที่ไม่มีวันหยุดยั้ง หลังจากการเติบโตอย่างรวดเร็วมาหลายทศวรรษ เศรษฐกิจของประเทศกำลังชะลอตัวลง และตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ก็เริ่มลดน้อยลง นี่คือรายงานของ Bloomberg เกี่ยวกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ของจีนที่ได้รับผลกระทบ
“ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ทั่วประเทศจีนต้องเผชิญกับการขาดทุนเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อของชิ้นใหญ่และนำรถยนต์มากองรวมกันในลานขาย
สมาคมผู้จำหน่ายรถยนต์แห่งประเทศจีน (China Automobile Dealers Association) ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ค้าปลีกยานยนต์ของประเทศกำลังประสบกับ “สภาพคล่องที่รุนแรงมาก” และคาดว่าจะขาดทุนประมาณ 138,000 ล้านหยวน (19,600 ล้านดอลลาร์) ในช่วงแปดเดือนแรกของปี 2567 เพียงปีเดียว
แม้ว่ายอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ในจีนจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลโดยรวมกลับค่อนข้างซบเซา โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกันยายน สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีนเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การอุดหนุนจากรัฐบาลที่สนับสนุนให้ผู้ขับขี่นำรถเก่ามาแลกซื้อเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่พุ่งสูงขึ้น แต่ตัวแทนจำหน่ายกลับได้รับผลกระทบเนื่องจากสงครามราคาที่ยังคงดำเนินต่อไปในอุตสาหกรรม”
ลองนึกภาพว่าคุณเป็นผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ของเราราว 6 แสนล้านดอลลาร์ และจ้างงานผู้คนหลายล้านคน ให้เท่าทันจีน คุณจะทำอย่างไร? ไม่มีปัญหาอะไร มาลองระดมความคิดกันดีกว่า
Cr.insideevs