ไม่น่าเชื่อว่าประเทศจีนที่กำลังมาแรงในตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แซงหน้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ในเรื่องของการส่งออกรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากข้อมูลของ Nikkei Asia ได้ระบุว่าอัตราการส่งออกรถยนต์ของประเทศจีนในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม (ไตรมาสที่ 1) เป็นจำนวนมากถึง 1.07 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า (YoY) ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีการส่งออกรถยนต์เป็นจำนวนราวๆ 950,000 คัน เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนหน้า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ส่งออกรถยนต์ได้มากเป็นอันดับที่ 1 ของโลก แซงหน้าแชมป์ก่อนอย่างประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นเพราะว่าประเทศจีนมีความได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า รวมถึงประเทศจีนยังมีรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้มากกว่า (ราคาถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจากญี่ปุ่น)
นอกจากนี้ประเทศจีนยังครอบครองทรัพยากรที่จำเป็นในการผลิตแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าไว้มากกว่า 80% ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากในรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน สัดส่วนต้นทุนของแบตเตอรี่อาจสูงถึง 40%-50% ของต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1 คัน
แต่ถ้าหากมาดูยอดการส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่ (รถยนต์พลังงานใหม่หรือ NEV เป็นคำนิยามในประเทศจีนซึ่งรวมรถยนต์ไฮบริด HEV, รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด PHEV, และรถยนต์ไฟฟ้า BEV) จะพบว่า Tesla ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในการส่งออกของจีนด้วยจำนวนราวๆ 90,000 คัน ตามมาด้วย SAIC Motor (บริษัทแม่ของรถยนต์ MG) และ BYD ซึ่งมียอดส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 50,000 และ 30,000 คันตามลำดับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : Nikkei Asia / The Standard