Shopping cart

ข่าวล่าสุด

ข่าวสารยานยนต์

ประกันน้ำท่วมรถยนต์ 2568 ประเทศไทย สิ่งที่เจ้าของรถควรรู้ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงอย่างหาดใหญ่

688

ปี 2568 เป็นอีกปีที่หลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคใต้และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ต้องเผชิญความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและฝนตกหนัก จากสภาพอากาศแปรปรวนและร่องมรสุมที่รุนแรงขึ้น ทำให้เจ้าของรถจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ “ประกันน้ำท่วมรถยนต์” มากกว่าที่เคย

บทความนี้สรุปข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนซื้อประกันน้ำท่วม และวิธีปฏิบัติตัวเมื่อรถถูกน้ำท่วม เพื่อช่วยลดความเสียหายและเพิ่มโอกาสการเคลมให้เร็วขึ้น

ประกันน้ำท่วมรถยนต์ 2568 คุ้มครองอย่างไร?

ความคุ้มครองกรณีน้ำท่วมจะอยู่ในหมวด “ภัยธรรมชาติ” ซึ่งแต่ละประกันมีระดับความคุ้มครองแตกต่างกัน ดังนี้

ประกันที่คุ้มครองน้ำท่วมแน่นอน

ประกันรถยนต์ชั้น 1 ครอบคลุมความเสียหายจากน้ำท่วมทุกกรณี เช่น

  • รถถูกน้ำท่วมขณะจอด
  • เครื่องยนต์ดับจากการขับลุยน้ำ
  • ระบบไฟฟ้า ชุดสายไฟ ECU เสียหาย
  • ห้องเครื่องน้ำเข้า

จึงถือเป็นประกันที่เหมาะกับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมอย่างหาดใหญ่ที่สุด

ประกันที่อาจคุ้มครองน้ำท่วม ต้องตรวจสอบเพิ่ม

ประกัน 2+ และ 3+ บางบริษัทในปี 2568 มีการเพิ่มแพ็กเกจ “ภัยน้ำท่วม” แบบซื้อเสริม หากไม่ได้ซื้อเพิ่ม อาจไม่คุ้มครอง

ประกันที่ไม่คุ้มครองน้ำท่วม

  • ประกันชั้น 2
  • ประกันชั้น 3
  • ประกันชั้น 3+ แบบพื้นฐานที่ไม่มีแพ็กเสริม

รวมถึงกรณีที่เจ้าของรถ “สตาร์ทรถทั้งที่ห้องเครื่องยังมีน้ำขัง” บริษัทอาจปฏิเสธเคลมเพราะถือว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานผิดวิธี

ทำไมปี 2568 ต้องให้ความสำคัญกับประกันน้ำท่วมมากเป็นพิเศษ?

ข้อมูลจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาชี้ว่า ปีนี้มีโอกาสที่

  • ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคใต้บ่อยกว่าปีที่ผ่านมา
  • ฝนตกหนักหลายวันต่อเนื่อง
  • น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น หาดใหญ่

หาดใหญ่เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่หลายครั้ง เช่น ปี 2543 และ 2553 ทำให้บริษัทประกันหลายแห่งเข้มงวดมากขึ้น อาจมี

  • ค่าเบี้ยสูงขึ้น
  • เงื่อนไขเฉพาะพื้นที่เสี่ยง
  • การตรวจสภาพรถก่อนรับประกัน

ค่าเบี้ยประกันน้ำท่วม 2568 ประมาณเท่าไร?

ราคาขึ้นอยู่กับรุ่นรถ ปีรถ ทุนประกัน และพื้นที่ใช้งาน โดยหาดใหญ่มักถูกจัดเป็น “โซนเสี่ยง”

ประเภทประกัน

ความคุ้มครองน้ำท่วม

ช่วงราคา (ประมาณ)

ชั้น 1

ครอบคลุม 100%

12,000 – 25,000 บาท

ชั้น 2+

บางบริษัทคุ้มครอง

7,900 – 12,500 บาท

ชั้น 3+

ขึ้นกับแพ็กเสริม

6,500 – 10,000 บาท

 

เลือกประกันน้ำท่วม 2568 อย่างไรให้คุ้ม?

1) ตรวจให้ชัดว่าคุ้มครองน้ำท่วมหรือไม่

มองหาคำว่า

  • ภัยธรรมชาติ
  • น้ำท่วม
  • น้ำขัง
  • ระบบไฟฟ้าชำรุดจากน้ำ

2) ดูเพดานการเคลม

บางบริษัทกำหนด

  • เคลมได้ไม่เกิน xx% ของทุนประกัน
  • มีค่าเสียหายส่วนแรก (Deduct)

3) ระวังเงื่อนไขสำคัญ

เช่น

  • ห้ามสตาร์ทรถหลังน้ำท่วม
  • ไม่คุ้มครองกรณีเปิดประตูให้น้ำเข้า
  • รถดัดแปลงบางประเภทอาจไม่คุ้มครอง

4) เลือกบริษัทที่บริการดีในภาคใต้

แบรนด์ที่เด่นด้านประกันน้ำท่วมในปี 2568 ได้แก่

  • วิริยะประกันภัย
  • กรุงเทพประกันภัย
  • สินมั่นคง
  • เทเวศ
  • KPI
  • เมืองไทยประกันภัย

วิธีเคลมประกันกรณีรถถูกน้ำท่วม ทำอย่างไร?

ขั้นตอนที่ควรทำทันที

  1. ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์พังและประกันไม่คุ้มครอง
  2. ถ่ายรูปและวิดีโอสภาพรถทุกมุม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลม
  3. รีบแจ้งบริษัทประกันทันที แจ้งสถานที่จอดรถ ความเสียหายเบื้องต้น
  4. ให้รถยกหรือลากไปอู่ บริษัทส่วนใหญ่มีบริการฟรี
  5. ถ้าพนักงานประกันเข้าพื้นที่ไม่ได้ ควรมีพยาน เช่น เพื่อนบ้าน คนในครอบครัว
  6. กรณีไม่มีภาพถ่าย บันทึกรายละเอียดวันเวลาและไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน

ข้อควรระวังเมื่อเคลมประกันน้ำท่วม

  • ห้ามสตาร์ทรถหลังน้ำลด เพราะหากเกิดความเสียหายเพิ่ม ประกันอาจไม่รับผิดชอบ
  • ขับลุยน้ำโดยเจตนา อาจถูกปฏิเสธเคลม
  • รถแต่งหรือเพิ่มอุปกรณ์โดยไม่แจ้งบริษัท อาจไม่ได้รับความคุ้มครองบางส่วน

สรุป: ปี 2568 ควรซื้อประกันน้ำท่วมรถยนต์หรือไม่?

หากคุณใช้รถในพื้นที่เสี่ยงอย่างหาดใหญ่และภาคใต้ คำตอบคือ “ควรซื้ออย่างยิ่ง” เพราะค่าเสียหายจากน้ำท่วม โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าและ ECU อาจสูงถึง 40,000 – 200,000 บาท ในขณะที่เบี้ยประกันเพียงปีละหลักหมื่น ถือว่าคุ้มค่าและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก

ประกันน้ำท่วมในปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือก แต่เป็นการป้องกันความเสี่ยงที่สำคัญสำหรับคนใช้รถในยุคที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

 

 

แหล่งที่มา : tqm

Comments are closed

Related Post