BMW ยืนยันการผลิตรถยนต์ SUV พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยรุ่นแรกคือ BMW iX5 ที่จะเริ่มสายการผลิตในปีหน้า และตามมาด้วย BMW iX7 ในปี 2027 พร้อมเตรียมเปิดตัวรุ่นทรงคูเป้แนว iX6 ที่จะมีสไตล์ใกล้เคียงกับ X6 ปัจจุบัน ทั้งหมดจะผลิตขึ้นที่โรงงาน Spartanburg รัฐเซาท์แคโรไลนา ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของ BMW ในสหรัฐฯ และเป็นโรงงานที่ส่งออกรถยนต์มากที่สุดในประเทศตามมูลค่า
ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบจากภาษีนำเข้า
การตัดสินใจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาถือเป็นกลยุทธ์สำคัญของ BMW ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ
iX5 และ iX7 ใช้โครงสร้าง CLAR พร้อมเทคโนโลยีจาก Neue Klasse
แม้ว่า iX5 และ iX7 จะใช้แพลตฟอร์ม CLAR ซึ่งรองรับได้ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและระบบไฟฟ้า แต่รถทั้งสองรุ่นจะได้รับเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแพลตฟอร์ม Neue Klasse ที่พัฒนาเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ แบตเตอรี่ทรงกระบอก และตัวควบคุมสมรรถนะสูง ส่งผลให้ขับขี่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น
การลงทุนครั้งใหญ่ในโรงงาน Spartanburg
BMW ได้ลงทุนเพิ่มเติมอีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงสายการผลิตที่โรงงาน Spartanburg และทุ่มอีก 700 ล้านดอลลาร์ เพื่อก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ใหม่ใกล้เคียงกัน รองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระยะยาว
คู่แข่งตรง Tesla Model X และ Cadillac Escalade IQ
-
BMW iX5 จะถูกวางตำแหน่งเป็น SUV ขนาดกลางที่มุ่งชนตรง Tesla Model X และ Cadillac Vistiq
-
BMW iX7 จะเป็น SUV ขนาดใหญ่รุ่นแรกของ BMW ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน แข่งกับ Cadillac Escalade IQ อย่างเต็มรูปแบบ
iX3 และ i3 รุ่นใหม่ ใช้แพลตฟอร์ม Neue Klasse เต็มรูปแบบ
นอกจาก SUV รุ่นใหญ่แล้ว BMW ยังเตรียมเปิดตัว iX3 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม Neue Klasse อย่างเต็มตัวในเดือนกันยายนปีนี้ และตามมาด้วย BMW i3 Sedan รุ่นใหม่ ในปีหน้า สำหรับตลาดสหรัฐฯ ยังไม่ยืนยันว่ารุ่น iX3 จะผลิตที่ไหน บางกระแสคาดว่าอาจเป็นโรงงานในเม็กซิโก ส่วนตลาดยุโรปจะผลิตที่โรงงานแห่งใหม่ในประเทศฮังการี
วิ่งไกลถึง 560 ไมล์ พร้อมชาร์จเร็วขึ้น 30%
BMW เปิดเผยว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของตนจะมีระยะทางการวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 560 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ด้วยการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ชนิด Silicon Carbide (SiC) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบซิลิกอนเดิม และแบตเตอรี่ทรงกระบอกที่สามารถชาร์จเร็วขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับระบบปัจจุบัน
แหล่งที่มา : insideevs