ล่าสุดทาง Nissan ได้ประกาศเปิดตัว All-New Nissan X-Trail เจนเนอเรชั่นที่ 4 อย่างเป็นทางการสำหรับประเทศญี่ปุ่น โดยเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นจะได้ขุมพลัง e-POWER ซึ่งจะแตกต่างจาก X-Trail ที่ขายในตลาดอเมริกาและออสเตรเลียที่จะได้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
สำหรับ Nissan X-Trail เจนเนอเรชั่นที่ 4 ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน CMF-C ซึ่งแชร์มาจาก Mitsubishi Outlander โดยการดีไซน์ภายนอกของรถคันนี้ดูคล้ายกับ Nissan Rogue ซึ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายปี 2020 ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าแบบแยกส่วน, กระจังหน้า V-motion ผสมโครเมียม รวมถึงมีการตกแต่งด้วยวัสดุที่ดูคล้ายกับอลูมิเนียมบริเวณกันชนหน้า กาบบันไดข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลัง นอกจากนี้ยังมีตัวรถเวอร์ชั่นพิเศษที่ตกแต่งโดย Autech วางจำหน่ายอีกด้วย
สำหรับเครื่องยนต์ที่ถูกติดตั้งในรถคันนี้ จะเป็นเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ 1.5 ลิตรพ่วงด้วยระบบเทอร์โบชาร์จ โดยมันมีหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าให้กับระบบขับเคลื่อน e-POWER ที่ได้รับการอัพเกรดเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งสามารถส่งกำลังได้นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น มีพละกำลังมากยิ่งขึ้น รวมถึงเสียงรบกวนที่ต่ำลงกว่า e-POWER รุ่นแรก (ทาง Nissan ยังไม่ได้เปิดเผยถึงสเปคของเครื่องยนต์และระบบ e-POWER) ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อละขับเคลื่อน 4 ล้อ
สำหรับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ในรถคันนี้เรียกได้ว่าทาง Nissan จัดเต็มจริงๆ เริ่มด้วยระบบขับขี่ “กึ่ง”อัตโนมัติ ProPilot, ระบบ Nissan Safety Assist 360 ที่มีกล้องรอบคัน 360 องศา รวมถึงเรดาร์ และโซนาร์เฝ้าติดตามสภาพแวดล้อมบนท้องถนน
ภายในของ X-Trail e-POWER จะได้รับหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้วพร้อมโหมดการแสดงผลสองโหมด รวมถึงหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 12.3 และจอแสดงผลบนกระจกหน้าขนาด 10.8 นิ้ว มาพร้อมกับระบบเครื่องเสียงจาก Bose Premium Sound System ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับ X-Trail รวมถึงช่องจ่ายไฟ 100V AC ที่มีกำลังเอาต์พุตสูงสุด 1,500 วัตต์
เบาะโดยสารของ X-Trail จะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเบาะหนัง Nappa คุณภาพสูง, วัสดุ Cell-Cloth ซึ่งสามารถกันน้ำได้, และเบาะผ้าสีดำแบบดั้งเดิม โดยตัวรถจะมีจำหน่ายทั้งเวอร์ชั่น 5 ที่นั่ง (เบาะ 2 แถว) และ 7 ที่นั่ง (เบาะ 3 แถว)
Nissan X-Trail ใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 3,198,800 เยน (850,000 บาท) สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ รุ่นย่อย “S” ไปจนถึง 4,499,000 เยน (1.2 ล้านบาท) สำหรับรุ่นท๊อป “G e-4ORCE” 4WD ไฮบริด
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : carscoops.com