All-New Nissan Juke รถซับคอมแพ็คครอสโอเวอร์เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการเผยโฉมแล้วอย่างเป็นทางการ ก่อนเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในยุโรปช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
10 ปีหลังจากสร้างความฮือฮอาให้กับเซกเมนท์ครอสโอเวอร์ด้วยรูปร่างหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ วันนี้ Nissan Juke ได้กลับมาอีกครั้งแล้วในเจเนอเรชั่นที่ 2 พร้อมรูปลักษณ์ที่ถูกต่อยอดมาจากเจเนอเรชั่นแรก รวมถึงมีพื้นที่ภายในเพิ่มมากขึ้นจากแพลตฟอร์มใหม่ CMF-B ที่ใช้ร่วมกับ Renault Captur และ Clio รุ่นล่าสุด
มิติตัวถังของ Juke ใหม่ มีความยาว 4,210 มม. สูง 1,595 มม. และกว้าง 1,800 มม. แถมยังมีน้ำหนักลดลงกว่ารุ่นก่อน 23 กก. ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกดูมีความแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนด้วยสัดส่วนที่กลมกลืน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยกระจัง V-motion ไฟหน้า-ไฟท้าย LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เมื่อพูดถึงไฟหน้า จะเห็นได้ว่ามันยังคงรักษาไฟหน้าแบบทรงกลมไว้ ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบไฟให้เป็นรูปตัว Y ถัดขึ้นไปเป็นไฟเดย์ไลท์ LED แนวนอนรูปทรงเพรียวบาง ขณะที่ไฟท้ายจะเป็นรูปทรงแบบบูมเมอแรง นอกจากนี้ Juke ใหม่ยังมีสีตัวถังให้เลือกถึง 11 สีรวมถึงสีแดง Fuji Sunset
ย้ายเข้ามาที่ห้องโดยสาร พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากว่าภายนอกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ขาที่มีมากขึ้น 58 มม. พื้นที่ศรีษะมากขึ้น 11 มม. และพื้นที่เก็บสัมภาระใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 20% ที่ 422 ลิตร นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์หน้าจอที่อยู่ตรงแผงแดชบอร์ดให้มีลักษณะเหมือนลอยตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นใหม่ และมีปุ่มควบคุมต่างๆ น้อยลงกว่าเดิม
สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ ระบบอินโฟเทนเมนท์ NissanConnect แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, และ Google Assistant ระบบเครื่องเสียง Bose Personal Plus พร้อมลำโพง 8 จุด
ใต้ฝากระโปรงติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ DIG-T ให้กำลัง 117 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด พร้อม Paddle Shift
Nissan Juke เจนใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอานาคตมากมาย ซึ่งอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ Nissan Intelligent Mobility ประกอบด้วย Intelligent Emergency Braking with Pedestrian และ Cyclist Recognition, Traffic Sign Recognition, Intelligent Lane Intervention, Rear Cross Traffic Alert, และ Blind Spot Intervention
All-New Nissan Juke จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ ก่อนเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในตลาดยุโรปปลายเดือนพฤศจิกายนนี้