All New Mitsubishi Triton ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ใหม่หมดทั้งภายนอก-ภายใน แชสซีส์ ช่วงล่าง และเครื่องยนต์ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure) พร้อมวางจำหน่ายแล้วในราคา ดังนี้
รุ่น Single Cab ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 2.4 PRO 4WD ราคา 699,000 บาท
- 2.4 PRO 4WD AT ราคา 749,000 บาท
รุ่น Double Cab PLUS ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ
- 2.4 PRO ราคา 820,000 บาท
- 2.4 PRIME ราคา 893,000 บาท
- 2.4 PRIME AT ราคา 938,000 บาท
- 2.4 ULTRA ราคา 982,000 บาท
- 2.4 ULTRA AT ราคา 1,027,000 บาท
รุ่น Double Cab ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- 2.4 PRIME 4WD ราคา 1,016,000 บาท
All New Triton รถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ทั้งคันครั้งแรกในรอบ 9 ปี มาพร้อมแนวคิดการออกแบบ “บีสท์ โหมด” [Beast Mode] ด้านหน้าสะท้อนเอกลักษณ์ด้วยแนวคิด ไดนามิค ชิลด์ (Dynamic Shield) กระจังหน้าแบบสามมิติที่ดุดันเสริมด้วยไฟเดย์ไลท์ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว และไฟส่องสว่างหน้าแบบสามมิติ
กระบะท้ายได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง และสปอยเลอร์ท้ายที่เพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ และสะดวกสบายด้วยบันไดข้างกว้างขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น
ห้องโดยสารภายในกว้างขวางและตกแต่งอย่างมีสไตล์ภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังใช้วัสดุคุณภาพสูง ตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มและตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัย
นอกจากนี้ All New Triton ยังมาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบมาตรฐานขนาด 3.5 นิ้ว หรือจอ LCD ขนาด 7 นิ้วในรุ่นที่สูงกว่า ระบบเครื่องเสียงแบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto
แผงคอนโซลกลางของรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีช่องวางแก้วน้ำที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมกล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิลิตร ได้มากถึง 4 ขวด แผงควบคุมด้านหน้าและคอนโซลกลางยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และยังมีแท่นชาร์จไร้สายอยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม
All New Triton ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร Hyper Power ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ มอบกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด
All New Triton ยังมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งระบบ Super Select 4WD-II สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ และระบบ Easy Select 4WD สำหรับรุ่น ซิงเกิ้ล แค็บ ที่มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง
ระบบ Super Select 4WD-II มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่ 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา) 4HLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4LLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ) พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง) Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)
ช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้าซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่น แท่นยึดคานบนของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (2WD High Rider) ได้รับการปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อนที่ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
โครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่ของ All New Triton มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น มอบสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายมากกว่าเดิม รวมทั้งรองรับการบรรทุกหนักและกระจายแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
All New Triton Diamond Sense อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด อาทิ
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
- ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) ตลอดจนระบบอื่น ๆ
นอกจากนี้ All New Mitsubishi Triton ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งมากมายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะป้องกันพื้นผิวสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ จนถึงการตกแต่งในสไตล์รถส่วนตัว เช่น สปอร์ตบาร์ ชุดตกแต่งซุ้มล้อบังโคลน และคิ้วกันกระแทกประตูที่ช่วยเสริมรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งทรงพลัง ตราสัญลักษณ์ที่กระจังหน้าเติมเต็มความสะดุดตา และพื้นปูกระบะซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในรถกระบะก็มีให้เลือกเช่นกัน