Mercedes-Benz C-Class ครองแชมป์ขวัญใจรถยนต์ระดับผู้บริหารมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี โดยมียอดขาย 10.5 ล้านคันตั้งแต่เปิดตัวในปี 1982 ถึงเวลาแล้วที่ค่ายดาวสามแฉกจะสานต่อความสำเร็จของรุ่นก่อน แม้จะต้องแข่งขันในตลาดที่ผู้คนนิยม SUV ก็ตาม
All-New Mercedes-Benz C-Class (W206) ได้รับการเปิดตัวออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ โดยในช่วงแรกของการเปิดตัวที่ในสหัฐฯ C-Class ใหม่ จะมีให้เลือกเพียงเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร เสริมด้วยระบบ ISG ช่วยเพิ่มกำลังในระยะสั้นๆ ได้ 20 แรงม้า และแรงบิด 200 นิวตันเมตร
โดยทั้งรุ่น C300 และ C300 4Matic จะส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic และขับเคลื่อนล้อหลัง อย่างไรก็ตาม C300 4-Matic จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเพลาหน้าแบบใหม่ที่ช่วยส่งแรงบิดไปยังล้อหน้าได้ดีมากขึ้น ให้อัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 209 กม.ต่อชม.
ในยุโรปจะถูกนำเสนอด้วยรุ่น C200 และ C200 4Matic เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวตันเมตร เสริมด้วยระบบ ISG โดยในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อสามารถทำอัตราเร่ง 0-96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 7.1 วินาที ทั้งในรูปแบบซีดานและแวกอน ขณะที่รุ่นขับเคลื่อล้อหลังจะทำได้ 7.3 วินาที (ซีดาน) และ 7.5 วินาที (แวกอน)
C200 ซีดานและแวกอนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 241 กม.ต่อชม. ขณะที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังทำได้ 246 กม.ต่อชม. (ซีดาน) และ 240 กม.ต่อชม.(แวกอน)
ในรุ่นเริ่มต้นอย่าง C180 จะถูกนำเสนอในยุโรปโดยเฉพาะกับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลัง 170 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ในรุ่นนี้มี ISG เช่นกัน ซึ่งมีส่วนช่วยให้ทำ 0-96 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 8.6 วินาที ก่อนไปแตะที่ความเร็วสูงสุด 231 กม.ต่อชม.
ภายนอกมาพร้อมไฟหน้าที่มีดีไซน์เฉียบคมกว่าเดิม รูปทรงด้านข้างที่ดูสะอาดตาพร้อมเส้นสายที่ลดลง C-Class ใหม่ทุกรุ่นจะมีสัญลักษณ์ดาวสามแฉกตรงกลาง โดยในรุ่นมาตรฐานมีองค์ประกอบตกแต่งด้วยกระจังทรงบานเกล็ด ขณะที่ AMG Line จะใช้กระจังหน้าลายเพชร และครั้งแรกของ C-Class ที่มีไฟท้ายแบบ 2 ชิ้น
ขนาดตัวรถมีความใหญ่ขึ้นเกือบทุกมิติ ตั้งแต่ฐานล้อที่ยาวขึ้น 1 นิ้วทำให้ผู้โดยสารเบาะหลังมีพื้นที่วางขาเพิ่มอีก 0.8 นิ้ว มีพื้นที่เหนือศรีษะเพิ่มขึ้น 0.6 นิ้ว รวมไปถึงมีพื้นที่ข้อศอกและไหล่ของผู้โดยสารตอนหน้าเพิ่มขึ้น 1 นิ้วด้วย
แม้การออกแบบภายนอกยังคงค่อนข้างธรรมดา แต่การออกแบบภายในนั้นได้รับอิทธิพลจาก S-Class มาเต็มๆ ตั้งแต่หน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้วสำหรับพื้นที่ของคนขับ ตรงกลางมีหน้าจอแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้วพร้อมระบบ MBUX รุ่นล่าสุด รองรับคำสั่งเสียง “Hey Mercedes” การอัปเดทแบบ OTA และอื่นๆ
All-New Mercedes-Benz C-Class จะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาต้นปี 2022 ในขณะเดียวกันชาวยุโรปจะสามารถสั่งซื้อซีดานและแวกอนได้ปลายเดือนมีนาคม ส่วนประเทศไทยยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่ายเปิดเผยออกมาขณะนี้