บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ All-new Honda Accord เจเนอเรชันที่ 10 สู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ และ 2.0 ลิตร Hybrid ในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
(All-new Accord_1.5L Di VTEC TURBO)
Honda Accord ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง และเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม และรองรับน้ำมัน E85
(All-new Accord_2.0L DOHC i-VTEC)
และระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบ 215 แรงม้า
(Engine Drive Mode)
(EV Drive Mode)
(Hybrid Drive Mode)
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) และยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode)
โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร
ดีไซน์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายดีไซน์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ Honda Accord ใหม่ แบบ LED พร้อมด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเทอร์โบ และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นไฮบริด
ภายในห้องโดยสารเน้นความความสปอร์ตพรีเมียม กว้างขวาง และสะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งาน อาทิ ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น
(Collision Mitigation Braking System: CMBS)
(Lane Keeping Assist System: LKAS)
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่ และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
- ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
(Cross Traffic Monitor: CTM)
พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM), ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS), และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) เป็นต้น
Honda Accord ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีไอวอรี่เบจ สีดำ และสีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่น HYBRID TECH ราคาไม่เกิน 1,800,000 บาท
- รุ่น HYBRID ราคาไม่เกิน 1,650,000 บาท
- รุ่น TURBO EL ราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท
ทั้งนี้ทาง Honda จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมการวางจำหน่าย Honda Accord ใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2562