All New HAVAL H6 PHEV แรงเกินต้าน กวาดยอดจองพร้อมการชำระเงินมัดจำ 10,000 บาทรวมทั้งสิ้น 1,241 คัน ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงแรก หลังประกาศราคาที่ 1,699,000 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
สำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งจอง All New HAVAL H6 PHEV หลังจากช่วงประกาศราคาอย่างเป็นทางการ คือตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 20.00 น.จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH เกรท วอลล์ มอเตอร์ ขอมอบสิทธิพิเศษกับแคมเปญ PREMIERE DEAL สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับสิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าและผู้สนใจซื้อในช่วงเปิดตัว อาทิ
ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ฟรี ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร (จากตู้เมน) จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) รวมถึงการมอบแพ็คเกจค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) สูงสุด 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี เป็นต้น รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ PREMIERE DEAL กว่า 167,000 บาท นอกจากนี้ ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี Plug-in Hybrid เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร อีกด้วย
ทั้งนี้ All New HAVAL H6 PHEV เป็นรถยนต์รุ่นที่ 5 ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เลือกนำมาเปิดตัวในประเทศไทยภายใต้ Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 9 รุ่นภายใน 3 ปี ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ผนวกกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% – 80%) โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และการชาร์จด้วยไฟบ้าน AC (0% – 100%) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่มากถึง 8 แบบ จาก 2 ระบบ ได้แก่ ระบบการขับขี่แบบไฮบริด (โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น) และระบบการขับขี่แบบไฟฟ้า (โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น)
All New HAVAL H6 PHEV มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา สีน้ำเงิน และสีแดง สะกดทุกสายตาด้วยมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ล้ำสมัย ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศาเข้าทรงกับสปอยเลอร์ท้ายและเสาอากาศแบบ shark fin พร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าและระบบแฮนด์ฟรี เสริมด้วยไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาว และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว ขณะที่ภายในชูแนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยคอนโซลหน้าทูโทนสีดำ-เทาสไตล์ Futuristic และครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออัจฉริยะ 3 จอเพื่อการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้าพร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมไปถึงฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ การเชื่อมต่อและควบคุมควบคุมผ่าน GWM Application ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (IIP) ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) และระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) เป็นต้น