Shopping cart

ข่าวล่าสุด

ข่าวต่างประเทศ

Abarth 600e 2025: รถไฟฟ้าสุดแรงจากแบรนด์สปอร์ตในรูปแบบครอสโอเวอร์

110

Abarth 600e ใหม่เผยให้เห็นว่าแม้แต่แบรนด์ที่เรามักจะคุ้นเคยกับรถเล็กและคล่องแคล่วอย่าง Fiat 500 ก็ไม่หลุดพ้นจากการพัฒนารถครอสโอเวอร์ไฟฟ้า โดยในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด Abarth ได้ใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มขีดความสามารถด้านสมรรถนะและพิสูจน์ว่าแม้แต่รถประเภทนี้ก็ยังสามารถเป็นรถที่สนุกและมีพลังได้

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ 600e ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด โดยใช้แพลตฟอร์มใหม่ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพัฒนาโดยทีมมอเตอร์สปอร์ต ยาง Michelin ที่ออกแบบพิเศษ ลิมิเต็ดสลิปดิฟเฟอเรนเชียล และขุมพลังที่มีประสิทธิภาพที่สุดที่เคยติดตั้งในรถ Abarth

การตั้งคำถามถึงตำแหน่งของ 600e ในตลาด

รถแข่งไฟฟ้าคู่แข่งอย่าง Alfa Romeo Junior Veloce, MG 4 XPower, Volkswagen ID 3 GTX และ Ford Puma ST ต่างก็มีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ที่สนุกในราคาประหยัดหรือความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน Abarth 600e จะมีตำแหน่งอย่างไรในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งเหล่านี้?

รุ่นและราคา

Abarth 600e มีสองรุ่นให้เลือก ได้แก่ Turismo และ Scorpionissima โดย Turismo ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าพัฒนาในบ้านกำลัง 237 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 54kWh ที่ให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 207 ไมล์ ส่วนรุ่น Scorpionissima เป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตแค่ 1,949 คันเพื่อเฉลิมฉลองการก่อตั้ง Abarth และมาพร้อมมอเตอร์ 276 แรงม้าที่ลดเวลาเร่งจาก 0-100 กม./ชม. จาก 6.2 วินาทีเป็น 5.9 วินาที

ดีไซน์และการตกแต่งภายนอก

Abarth 600e โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกที่ให้ความรู้สึกโกรธ ๆ แต่ยังน่ารักเหมือนกัน ด้วยชุดแต่งที่ดุดัน รวมทั้งสปอยเลอร์หน้าและกันชนที่ออกแบบใหม่ โดยมีล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วและการตกแต่งที่สะดุดตา แต่ไม่ดูเกินไป สะท้อนถึงสไตล์เฉพาะตัวของ Abarth ที่เน้นความน่าสนใจโดยไม่ดูรุ่นแรงเกินไป

ภายในห้องโดยสาร

ภายในของ Abarth 600e แม้ว่าจะมีการตกแต่งด้วยวัสดุกีฬาอย่างหนังกลับ เบาะนั่งที่ออกแบบพิเศษและแป้นเหยียบอะลูมิเนียม แต่ก็ยังมีส่วนที่เหมือนกับ Fiat 600e รุ่นมาตรฐาน ซึ่งอาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่าไม่ได้รับการปรับปรุงมากพอ ข้อดีคือระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้วทำงานได้ดีและใช้งานง่าย พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือห้องโดยสารยังคงมีพื้นที่ที่จำกัด โดยเฉพาะที่นั่งด้านหลัง

สมรรถนะและการขับขี่

Abarth 600e ใช้แพลตฟอร์มใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อสมรรถนะสูง มอเตอร์ไฟฟ้าพัฒนาในบ้านที่มีพละกำลัง 237 แรงม้า ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม แต่ไม่ถึงกับทำให้รู้สึกท้าทายจนเกินไป ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าและมีการเสริมสมรรถนะของระบบกันสะเทือนและการเบรกเพื่อการขับขี่ที่มั่นคงและปลอดภัย

รุ่น Scorpionissima ที่มาพร้อมกับกำลัง 276 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ซึ่งทำให้รถมีความเร็วสูงมากขึ้น แต่ในสภาพการขับขี่ปกติทั้งสองรุ่นให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกัน

การจัดการและการควบคุม

แม้ว่าระบบช่วงล่างจะได้รับการปรับปรุงให้ดีกว่ารุ่นมาตรฐาน แต่บางครั้งยังคงรู้สึกถึงความยืดหยุ่นน้อยไปในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะในขณะขับขี่ที่ต้องใช้เบรกหนัก ๆ หรือต้องการการปรับตัวที่รวดเร็วในสภาวะที่มีความยากลำบาก

ประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน

Abarth 600e แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ดีในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะไม่มีโหมดขับขี่แบบหนึ่งปีก็ตาม แต่สามารถเดินทางได้ไกลกว่า 160 ไมล์ในการทดสอบในชีวิตจริง อัตราการชาร์จสูงสุดที่ 100kW ทำให้ชาร์จเร็วพอสมควร แม้ว่าจะช้ากว่าคู่แข่งบางรุ่น

ราคาขายและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

ราคาของ Abarth 600e เริ่มต้นที่ประมาณ 37,000 ปอนด์ ซึ่งแข่งขันได้กับคู่แข่งในตลาดที่มีทั้งรุ่นไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปภายใน ราคาของรุ่น Scorpionissima อยู่ที่ประมาณ 42,000 ปอนด์ ซึ่งราคาใกล้เคียงกับ Alfa Romeo รุ่น Junior แต่ยังคงมีความน่าสนใจในแง่ของสมรรถนะ

บทสรุป

Abarth 600e คือรถไฟฟ้าที่มีสมรรถนะสูงและสามารถดึงดูดผู้ขับขี่ที่ต้องการเปลี่ยนจากรถสันดาปไปยังรถไฟฟ้า โดยไม่ต้องเสียสละความสนุกในการขับขี่ ด้วยการตั้งราคาอย่างเหมาะสม และการปรับแต่งที่เน้นการให้ความสนุกและสมรรถนะ แต่ยังคงมีบางจุดที่สามารถพัฒนาได้ เช่น การมีความแตกต่างในห้องโดยสารและบางแง่มุมของการควบคุมการขับขี่

 

Cr.autocar

Comments are closed

Related Post