fbpx
เปิดตัว Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7

Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 เปิดตัวพร้อมสไตล์ที่โฉบเฉี่ยว และเครื่องยนต์ Coyote V8 อันทรงพลัง

สิ้นสุดการรอคอย Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 ถูกเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการในงาน North American International Auto Show 2022 ชูจุดเด่นกับ 2 ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ EcoBoost 2.3 ลิตร และเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตรอันทรงพลัง แผงหน้าปัดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ และดีไซน์ภายนอกที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น

Mustang เจเนอเรชันที่ 7 ซึ่งมีชื่อรหัสว่า S650 มีการออกแบบเพิ่มเหลี่ยมมุมที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ขณะที่กระจังหน้าได้รับอิทธิพลจากรถรุ่นดั้งเดิมในช่วงทศวรรษที่ 1960 ขนาบข้างด้วยไฟหน้าแบบ Tri-Bar LED นอกจากนี้ยังมาพร้อมแนวหลังคาที่โฉบเฉี่ยว ซุ้มล้อที่กว้างขึ้น ส่วนท้ายที่สั้นลง ไฟท้ายแบบ 3 แถบดีไซน์ใหม่ และดิฟฟิวเซอร์ที่ออกแบบใหม่

Mustang แต่ละรุ่นยังมีดีไซน์ด้านหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ต่างกัน โดย Mustang GT จะแตกต่างจากรุ่น EcoBoost ตรงที่มีช่องตะแกรงใหญ่และดุดันมากกว่าเพื่อให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น ตัวรถยังได้รับการปรับแต่งด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้น โดยเพิ่มช่องระบายอากาศและลิ้นหน้าที่ออกแบบใหม่

สำหรับในรุ่นเปิดประทุน ให้คุณเปิดหลังคาผ้าใบทั้งผืนเพื่อรับลมได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว การออกแบบหลังคาให้กะทัดรัดและการใช้ระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระ ยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระในกระโปรงท้าย โดยสามารถใส่ถุงกอล์ฟได้สูงสุดถึง 2 ใบ

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงหน้าปัดซึ่งใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดเท่าที่ Mustang เคยมีมา ด้วยจอโค้งที่แสดงผลแบบต่อเนื่อง 2 จอ ปรับเปลี่ยนเพื่อดูข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องบินรบ แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.4 นิ้ว ปรับการทำงานให้แสดงผลได้ตามโหมดการขับขี่ พร้อมซอฟต์แวร์ทันสมัย ทำให้เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลแบบอนิเมชันได้หลากหลาย

ผู้ขับขี่ยังเลือกให้แผงควบคุมดิจิทัลแสดงผลได้แบบไร้รอยต่อ เชื่อมการทำงานกับหน้าจอ SYNC4 ขนาด 13.2 นิ้ว ตรงกลางคอนโซล โดยมุมมองของจอภาพจะหันเข้าหาผู้ขับขี่เสมือนค็อกพิตนักบิน นอกจากจอภาพ พวงมาลัยใหม่แบบครึ่งวงกลมในสไตล์รถแข่ง ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ของคนขับให้กว้างขวางขึ้น บริเวณคอนโซลกลางยังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และมีช่องเสียบ USB อยู่เหนือศีรษะ ซึ่งออกแบบมาให้ใช้กับกล้องวิดีโอติดรถยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ พร้อมด้วยการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดคือ Remote Rev ที่กดเร่งเครื่องยนต์จากปุ่มบนกุญแจรีโมตของรถได้

ด้านขุมพลังมีให้เลือก 2 แบบ เริ่มจาก Mustang GT ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Coyote V8 ขนาด 5.0 ลิตร เจเนอเรชันที่ 4 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดที่เป็นออปชั่นเสริม และสำหรับลูกค้าที่ต้องการรถที่ขับสนุกและประหยัดน้ำมัน สามารถเลือกรุ่น EcoBoost ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2.3 ลิตร 4
สูบที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมดได้

Mustang เจเนอเรชันที่ 7 มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ปรับได้ถึง 6 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดถนนลื่น โหมดแข่งทางตรง (แดรก) โหมดแทร็ก และโหมดสุดท้ายที่บันทึกการตั้งค่าส่วนตัวได้ จากความสามารถในการปรับแต่งรูปแบบส่วนตัวได้ถึง 6 สไตล์

สำหรับเทคโนโลยีช่วยขับขี่มาพร้อมฟีเจอร์ Co-Pilot360 เจเนอเรชันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบจดจำป้ายจำกัดความเร็ว ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัจฉริยะพร้อมฟังก์ชันสำหรับการขับขี่ที่ต้องเบรกบ่อย ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางช่องทาง ระบบช่วยหักเลี้ยวเพื่อเลี่ยงการปะทะ และระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำคัญคือ ระบบเลี่ยงการสะเทือนจากหลุมบนถนน หรือ Active Pothole Mitigation ซึ่งคอยตรวจสอบระบบกันสะเทือน ตัวถัง การบังคับเลี้ยว และการเบรกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับการตอบสนองของระบบกันสะเทือนให้สอดคล้องกัน

เจ้าของรถสามารถสั่งการรถผ่านแอปพลิเคชัน FordPass ได้หลากหลายจากระยะไกลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เช่น การสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ การล็อกและปลดล็อกประตู ตั้งเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบุตำแหน่งของรถ และตรวจดูสภาพและสถานะของรถ นอกจากนี้ FordPass ยังบอกข้อมูลสำคัญอื่นๆ เกี่ยวกับรถ เช่น ระดับน้ำมันหล่อลื่นและน้ำมันเชื้อเพลิง ประวัติการเข้ารับบริการ และข้อมูลการรับประกัน

มีสีสันให้เลือกทั้งหมด 12 เฉดสี โดยเป็นสีใหม่ 2 สี คือ สีน้ำเงิน เวเปอร์ บลู และสีเหลือง เยลโล สแปลช พร้อมตกแต่งด้วยลายทางในสีและลวดลายใหม่ นอกจากนี้ลูกค้ายังเลือกสีจานเบรก Brembo ได้ 3 สี คือ สีดำ สีแดง และสีน้ำเงิน แกร็บเบอร์ บลู รวมทั้งมีล้ออัลลอยรุ่นใหม่ล่าสุดให้เลือก ตั้งแต่ขนาดมาตรฐาน 17 นิ้วในรุ่นพื้นฐาน ไปจนถึงขนาด 19 นิ้วสำหรับฟอร์ด มัสแตง GT ซึ่งมีออปชันเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วได้

Ford Mustang เจเนอเรชันที่ 7 มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนปีของสหรัฐฯ ปี 2023 และจะประกอบชิ้นส่วนที่โรงงานแฟล็ต ร็อค แอสเซมบลี ในเมืองแฟลตร็อค มลรัฐมิชิแกน

บทความที่น่าสนใจ

หลุดภาพสิทธิบัตรกระบะ BYD ก่อนเปิดตัวปลายปี 2023 นี้

idiot

ยืนยันแล้ว Toyota GR Yaris 2020 จะเป็นรถเครื่อง 3 สูบที่ทรงพลังที่สุดในโลก แต่ยังไม่เปิดเผยราคา

idiot

ผู้บริหาร Nissan เผยกำลังอยู่ในระหว่างชั่งใจเลือกขุมพลังให้กับ GT-R เจนใหม่

idiot

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy