หากพูดถึง กระจังหน้าไตคู่ หรือ Kidney Grille สาวก Bimmer ทุกคนต้องรู้จักคำนี้อย่างแน่นอน เพราะนี่คืออีกหนึ่งเอกลักษณ์ของ BMW ที่อยู่คู่กับแบรนด์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1933 หรือเมื่อเกือบ 90 ปีก่อน วันนี้ทีมงาน CarVariety จะมาไปดูวิวัฒนาการของกระจังหน้าแบบไตคู่ของ BMW กันว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างไรกันบ้าง
BMW 303 – จุดเริ่มต้นของกระจังหน้าไตคู่
เริ่มกันด้วย ฺBMW 303 ถือได้ว่าเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ดีไซน์กระจังหน้าไตคู่ ผลิตขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1933 – 1934 และรถรุ่นนี้ยังใช้เครื่องยนต์แบบ 6 สูบเป็นรุ่นแรกของ BMW รถคันนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกระจังไตคู่ในตำนานนั่นเอง
BMW 328 – เรียวบางลง เพิ่มความโฉบเฉี่ยว
ต่อมาในช่วงปี 1936 – 1940 BMW ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ 328 ออกมาจำหนาย โดยรถรุ่นนี้จะเพิ่มความโฉบเฉี่ยวของตัวรถ โดยได้มีการดีไซน์กระจังหน้าใหม่ให้มีความเรียวบางมากยิ่งขึ้น โดยรถรุ่นนี้ได้ถูกนำมาใช้ในการแข่งขัน Motorsport และมันสามารถคว้าชัยในรายการการแข่งขัน Mille Miglia ในปี 1940 และรายการ Australian Grand Prix ในปี 1948
BMW 507 – เมื่อกระจังไตคู่มาอยู่ในรถสปอร์ต
ในช่วงปี 1956 ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์กระจังหน้าไตคู่ครั้งใหญ่ในรถ BMW 507 ซึ่งตัวรถมาในสไตล์โรดสเตอร์ และถือเป็นครั้งแรกของ BMW ที่ดีไซน์กระจังหน้าในลักษณะแนวนอน โดยรถคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3,168 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดจาก ZF
BMW 503 – ปรับดีไซน์ให้เล็กลง เข้ากับตัวรถมากยิ่งขึ้น
ถัดมาที่ BMW 503 รถยนต์ในสไตล์ Grand tourer ที่ทาง BMW ผลิตออกมาขายในช่วงปี 1956 – 1959 ได้มีการนำกระจังหน้าแบบไตคู่ทรงตั้งกลับมาใช้อีกครั้ง แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้ดูสมส่วนและลงตัวมากยิ่งขึ้น
ทศวรรษ 60 – เข้าสู่ยุคกระจังล้อมไฟหน้า
เข้าสู่ช่วงทศวรรษ 60 ทาง BMW ได้ส่งรถรุ่นใหม่หลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น BMW 1500 , BMW 1600 , BMW 1800 ซึ่งรถทั้งสามรุ่นนี้มาพร้อมกับกระจังหน้าไตคู่ทรงตั้งที่ดูเล็กกว่าที่ผ่านมา รวมถึงกระจังหน้าทั้ง 2 ข้างยังได้รับการออกแบบให้ติดกันอีกด้วย
BMW 2002 – น้องเล็ก พริกขี้หนู
มาต่อกันที่ BMW 2002 รถอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างชื่อให้กับ BMW ในช่วงทศวรรษ 70 เพราะได้มีการสร้างรุ่นพิเศษ 2002 Turbo ซึ่งถือได้ว่าเป็นรถ Production car รุ่นแรกจากทางค่าย BMW ที่ใส่ระบบอัดอากาศ หรือ Turbocharge โดยมันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า ซึ่งถือว่าแรงมากหากเทียบกับเทคโนโลยีในสมัยนั้นรวมถึงขนาดของตัวรถที่ค่อนข้างเล็ก จึงทำให้รถรุ่นนี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 7.5 วินาทีเท่านั้น
BMW M1 – Supercar คันแรก พร้อมไตคู่อันจิ๋ว
ในช่วงปี 1978 ทาง BMW ได้เปิดตัว Supercar รุ่นใหม่ของทางค่ายได้แก่ BMW M1 โดรถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการวางเครื่องยนต์ไว้กลางลำตัว โดยมาพร้อมความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 273 แรงม้า โดยทาง BMW ได้มีการออกแบบช่องรับลมบริเวณกระจังหน้าในลักษณะแนวนอน แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งกระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของทางค่าย ทำให้เจ้าไตคู่มีขนาดเล็กจิ๋วดูแปลกตาจากรถรุ่นอื่นๆ
BMW E30 – สวยตลอดกาล ด้วยไฟคู่และไตคู่
3 Seires (E30) รถอีกหนึ่งรุ่นที่ยังอยู่ในใจสาวก Bimmer และถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จของซีรี่ส์ 3 จนถึงปัจจุบัน เปิดตัวในช่วงปี 1982 โดยมันมาพร้อมกับกระจังหน้าแบบไตคู่ดีไซน์ใหม่ พร้อมกรอบโครเมี่ยมสีเงินเพิ่มความสะดุดตา เสริมด้วยไฟหน้าทรงกลมแบบคู่ รถรุ่นนี้ถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่นักสะสมทั้งในไทยและต่างประเทศต่างให้ความสนใจ
ทศวรรษ 90 – ไตใหญ่มาแล้ว
หลังจากได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงทศวรรษ 90 BMW ได้มีการปรับดีไซน์ของกระจังหน้าให้มีความใหญ่และโค้งมนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในรุ่น E36 , E39 รวมถึง E46 ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวในยุค 1990s กับยุค 2000s
BMW F30 3 Series – เมื่อไตคู่พบกับไฟหน้า
BMW ได้พลิกโฉมกระจังไตคู่ของพวกเขาอีกครั้งช่วงปี 2011 ในรถ BMW 3 Series F30 ซึ่งคราวนี้กระจังหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และถือเป็นครั้งแรกที่กระจังหน้านั้นมีชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกับไฟหน้ารถเป็นครั้งแรก
BMW i3 & i8 – ครั้งแรกกับไตคู่สีฟ้า
ในปี 2013 พวกเขาตัดสินใจออกแบบกระจังหน้าไตคู่สำหรับรถไฟฟ้า หรือรถ EV โดยได้มีการเพิ่มลูกเล่นแถบสีฟ้าบริเวณขอบ เพื่อแสดงถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าลงในกระจังหน้ารถ i3 และ i8
2018 – ยุคของกระจังหน้าไซต์ใหญ่บึ้ม
BMW ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับชาว Bimmer ด้วยการเปิดตัว BMW Vision iNext รถ Concept คันใหม่ของทางค่ายที่คราวนี้มันมาพร้อมกับกระจังหน้าไตคู่ขนาดมหึมา จนทำให้ผู้คนต่างสงสัยว่ามันดูสวยหรือดูตลกมากว่ากัน
และดูเหมือนทาง BMW จะชื่นชอบกระจังหน้าอันใหญ่บึ้มของพวกเขา จึงได้เปิดตัวรถรุ่นต่างๆออกมาหลากหลายรุ่น และแน่นอนว่ารถเหล่านี้มาพร้อมกับกระจังหน้าไซต์ยักษ์นั่นเอง
และไม่แน่ว่าในอนาคตทาง BMW อาจเปลี่ยนการออกแบบดีไซน์กระจังหน้าไตคู่ของพวกเขาให้ใหญ่มากขึ้นไปอีก ตามรูปด้านล่างนี้
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : bmwblog.com / businessinsider.com / bimmerlife.com / motor1.com / bmwgroup-classic.com