มาเซราติ และ ฮิโรชิ ฟูจิวาระ เจ้าพ่อวัฒนธรรมแบบสตรีทชาวญี่ปุ่น จับมือสร้างสรรค์ผลงานในโปรเจ็กต์ที่เปี่ยมด้วยความกล้าและบ้าบิ่น เปิดตัว Operanera และ Operabianca ยนตรกรรม 2 รุ่นพิเศษของ Maserati Ghibli ซึ่งมีการผลิตจำกัดเพียง 175 ทั้วโลก
สไตล์ของ มาเซราติ และบุคลิกของ ฟูจิวาระ ล้วนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การมาบรรจบกันระหว่างรูปลักษณ์ของ มาเซราติ และวัฒนธรรมแบบสตรีทของแบรนด์ ‘Fragment’ ก่อให้เกิดความร่วมมือในการรังสรรค์งานศิลป์ ที่สื่อถึงความหมายของ Maserati meets Fragment ได้ดีที่สุด
Operanera และ Operabianca คือ 2 ยนตรกรรมรุ่นพิเศษที่เปรียบเสมือน ‘เพลงติดล้อ’ (A song on wheels) มาพร้อมตัวถังสีดำและขาวตามลำดับ ใช้พื้นฐานจากรุ่น กิบลี่ กรันลุซโซ่ (Ghibli GranLusso) ผลิตจำกัด 175 คันทั่วโลก
ภายนอกตกแต่งตามสไตล์ของ ฟูจิวาระ ด้วยกระจังหน้าแบบพิเศษ พร้อมโลโก้ดีไซน์ใหม่ ติดตั้งบริเวณเสาซี พร้อมล้อแม็ก Urano สีดำด้านขอบ 20 นิ้ว มือจับประตูและล้อแม็กพ่นสีเดียวกับตัวถัง ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังแท้เกรดพรีเมียมและอัลคันทารา สอดแทรกด้วยตะเข็บแนวตั้งสีเงินบนเบาะ พร้อมโลโก้ตรีศูลบริเวณพนักพิงศีรษะสีเดียวกัน และใช้เข็มขัดนิรภัยสีน้ำเงินเข้ม
ปิดท้ายด้วยการเพิ่มรหัส M157110519FRG บริเวณช่องลมด้านข้าง โดย 4 ตัวแรกเป็นรหัสตัวถังของ มาเซราติ กิบลี่ ขณะที่เลข 6 หลักถัดไป แสดงถึงวันที่มีการนัดพบกันครั้งแรก ระหว่าง ฮิโรชิ และ Centro Stile Maserati (5 พฤศจิกายน 2019) ส่วน 3 ตัวสุดท้าย คือ อักษรย่อของ Fragment
นอกเหนือจากการเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ ก็มีการผลิตเครื่องแต่งกายคอลเล็กชั่นเฉพาะกิจ (capsule collection) ที่ผ่านการออกแบบร่วมกับ ฟูจิวาระ ด้วยแนวคิดที่แปลกใหม่เช่นเดียวกับตัวรถ