วันหยุดยาวที่ผ่านมา เราแพลนกันว่าจะไปเกาะช้างกันตั้งแต่ มีนา พอว่างตรงกันปุ้บ เลยตกลงปลงใจเตรียมกระเป๋าไปเกาะช้างกัน และครั้งนี้เราก็ได้เลือก Mercedes Benz GLC 220d AMG Dynamic (รุ่นประกอบในประเทศ) เป็นยานพาหนะคู่ใจในการเดินทาง
“เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic และขับเคลื่อนล้อหลัง”
ตลอดขาไป เราออกเดินทางกันตอนเย็นของวันศุกร์
เตรียมของกันเยอะมากเพราะต้องไปอยู่โรงแรมเท่านั้น
บอกก่อนว่า การเที่ยวตอนสถานการณ์โควิด ต้องระวังทั้งตัวเอง และระวังทั้งคนอื่น ฉะนั้นเรามีผลตรวจโควิด ทั้งสี่คน เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ ให้กับคนรอบข้างด้วย
และทางโรงแรม ก็มีมาตรการที่รัดกุม อย่างเช่นการขอความร่วมมือ ให้อยู่แค่เพียงในโรงแรมเท่านั้น การทานอาหารก็ต้องทานที่ห้องพักอย่างเดียว ซึ่งเหมาะกับการ Staycation ช่วงนี้ และเหมาะกับความขี้เกียจของพวกเรามากๆ
เราเดินทางไปพักที่ โรงแรม
โรงแรมสไตล์จีนๆ ไทยๆ งงๆ ผสมๆ แต่สบายดี มุมพักผ่อนเยอะ
ที่สำคัญเงียบมากๆ มีคนเข้าพัก แค่ สองสามห้อง
ตลอดการเดินทาง ที่เกาะช้าง ทางลาดชัน ลงเขา ขึ้นเขา เลี้ยวโค้ง หักศอก บอกเลยว่าพระเอกของเรา ทำได้ดีมาก
นั่งสบายมากๆ ให้ความมั่นใจกับคนนั่ง ในทุกโค้ง
ทริปนี้มีผู้ร่วมชะตากรรม 4 คน บอกเลยว่าใส่ของได้แบบเหลือๆ เนื้อที่กว้างขวาง แต่ถ้าของเยอะมากๆจะเลยแผ่นกั้น อาจทำให้บังทัศนวิสัยในการขับบ้าง แต่โดยรวมแล้ว สบายๆสำหรับเสบียง 4วันครับ…ลืมบอก เบาะสามารถพับนอนได้เลยนะครับ กรณีไม่มีผู้โดยสาร
ออกเดินทางกันตอนดึกเลย ออกมาไม่ทันไรก็โดนฝนถล่มกันชุดใหญ่ อย่างแรงที่สัมผัสได้คือ รถเงียบ และขับสบายมากๆในความเร็วต่ำ-กลาง อัตราเร่งถือว่าทำได้ดีเลย อาการ boost lag น้อยมากๆ อาการดึงมาแบบ flat torque คือดึงยาวๆเรื่อยๆตั้งแต่รอบต่ำ ไม่มีห้อย ส่วนยางชุดนี้ที่ให้มาเป็น Pirelli Scorpion ซึ่งรีดน้ำได้ดีมากๆ มีอาการดึงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คุมได้สบายๆโดยไม่มีอาการให้ตกใจแน่นอน ส่วนอีกอย่างที่ช่วยในการขับได้ดีมากๆคือ auto high beam assist ที่จะยิงไฟสูง(ที่สว่างมากๆ) ในส่วนของทางที่มืด ตรงไหนมีรถ ไฟหน้าจะทำการแหวกเพื่อไม่ให้คันหน้าแสบตา ถือว่าเป็นอีกอย่างที่เบนซ์ทำได้ดีมากๆ
อีกส่วนที่ชอบมากๆคือ เราสามารถต่อ apple car play / android auto ได้เลย แต่ต้องเสียบสายกับรถนะครับ จะไม่สามารถต่อแบบไร้สายได้ แถมยังสามารถต่อการนำทางเข้าเรือนไมล์ของรถได้ด้วย ทำให้ไม่ต้องคอยชำเลืองมองจอกลางบ่อยๆ
นี่เลยครับ option นี้ไม่มีใครรีวิวแน่นอน 😂
ไฟ ambient light นอกจากจะปรับโทนสีได้เยอะแล้ว ถ้าปรับถูกสี มันยังตรวจแบงค์ได้ด้วย 555555
ที่รองแก้วยังสามารถถอดได้ ตามการใช้งานของเรา เพราะผมก็เชื่อว่าหลายๆคนคงไม่ค่อยได้วางแก้วกันเท่าไหร่ โดยจุดนี้จะมีจุดวางกุญแจ ซึ่งจะเป็นจุดที่ไว้วางรีโมทเวลาแบตรีโมทเราหมดนั่นเอง
หลังจากนอนพักกันที่โรงแรม ตื่นเช้ามาก็ออกเดินทางต่อกันเลย เดี๋ยวตกเรือ
การขับขี่ขับง่ายทัศนวิสัยมองได้ไกล ทางมาค่อนข้างมีโค้งเยอะ จุดนี้เราได้ลองช่วงล่างกันแบบครบๆ ทุกย่านความเร็ว โดยรวมถือว่าทำได้ดีมากๆสำหรับรถ segment นี้ รถม้วนเข้าโค้งดีมากๆ แต่ถ้าเข้า overspeed ท้ายจะมีอาการไหลๆนิดหน่อย แต่ระบบ ESP ได้เข้ามาช่วยไวมากๆจนเราไม่ต้องทำอะไรเลย รอยต่อถนนรถสามารถซับได้แบบชิลๆ ไม่มีตึ้งตั้งแน่นอน แต่ในย่ายความเร็วสูงมากๆ รถแอบจะย้วยๆไปนิดด้วยความที่เป็นรถสูง ระยะstrokeเยอะ ออกแบบมาขับสบายๆ สรุปสั้นๆโดยรวม ขับสบายมากกกก เงียบ เก็บรอยต่อแบบไม่รู้สึก แต่ขับเร็วมากๆ จะย้วยๆ หน่อย
รูปนี้เรากำลังจะรอเรือเพื่อจะข้ามไปเกาะเหมือนว่ามีคนแอบมองมาจากในรถด้วย 😄กลับมาทีเรื่องรถกันจะดีกว่า ล้อที่ให้มาเป็นล้อ 19 นิ้ว พร้อมยาง Pirelli scorpion 235/55/19 Runflat อีกด้วย โดยคันนี้ให้มาเป็น square setup (ขนาดเท่ากัน4ล้อ) ยางตัวนี้นุ่ม เงียบ มากๆ ในทางแห้ง ยางเกาะถนนดีเทียบในคลาสยางนุ่มเงียบ ระยะเบรคถือว่าดี ส่วนนึงอาจจะเกี่ยวกับตัวเบรคของรถด้วย ส่วนในทางเปียกที่ลองมาเมื่อคืน ยางรีดน้ำได้ดีมาก คุมรถได้ดีทุกย่านความเร็ว ปล.เราก็ไม่ได้ลองกันโหดร้ายมากนัก เพราะฝนตก
และแล้วเราก็ขึ้นมาบนเรือ บอกเลยว่าทางขึ้นเรือมีความโหดร้ายเบาๆ คือถ้าเอาเก๋งโหลดเตี้ยมา มีสิทธิ์ขึ้นไม่ได้แน่นอน แต่เราเอา GLC มา มีความสูงจากท้องรถถึงพื้นกว่า 16.4CM อย่าว่าแต่ทางไม่ดีเลย เจอน้ำท่วมระดับฟุตบาตยังได้ ระหว่างนั่งรอเรือข้ามฝั่ง เราก็นั่งดู Netflix แบบชิวๆในรถ ทดลองระบบเครื่องเสียงแบบ Theater สักหน่อย 🚤 โดยระบบเสียงจะเอาแนวกลางๆ แต่เราสามารถปรับ equalizer, fader และยังปรับ balance ของเสียงได้อีกด้วย ว่าเราชอบแบบไหน โดยรวมแล้วถือว่าให้มาดีกว่าหลายๆ ค่าย
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลงมายืดเส้นยืดสายถ่ายรูปรถกันดีกว่า พอเป็นรูปนี้คงต้องพูดถึงระบบช่วงล่าง มีความนุ่มนวล มีสมรรถนะดีเยี่ยม ตอนความเร็วต่ำนุ่มนืบ ตอนความเร็วสูงแอบย้วยๆบ้าง เพราะว่านั่งกัน 4คน และ ลักษณะรถ
ที่เป็นรถสูงหรือว่า SUV แต่บอกเลยว่าเข้าโค้งได้เกาะถนนดีมาก อาจจะขัดใจสายซิ่ง เพราะแอบรู้สึกท้ายจะไหลออกๆนิดหน่อย
มาที่ไฟหน้ากันบ้างไฟหน้าเป็นแบบ Multibeam Led และมีเป็นระบบ Adaptive Highbeam Assist แถมยังมี Cornering Light และที่สำคัญอย่างระบบ Ultra Range Highbeam ที่ส่องสว่างกว่า 650 เมตรอีกด้วย
จอดอาบแดดกันสักนิดแล้วเดี่ยวไปต่อนะ เพราะว่ารถคันนี้มี Paronamic Sunroof คันนี้รถยังไม่ได้ติดฟิล์ม แต่บอกเลยว่า รถสามารถกันความร้อนได้ดีมากๆ + แอร์เย็นและแรง ต่างจากรถยุโรปสมัยก่อนที่แอร์สู้รถญี่ปุ่นไม่ได้ ขึ้นรถมาแปปเดียว ก็เย็นสบายกันแล้ว
เจอโค้งแบบนี้ เราก็เข้าโหมด sport สิครับ โดยคันนี้มี driving mode ให้เลือกหลักๆถึง 4 แบบ
- Eco ประหยัด ใช้งานในเมืองแบบไม่เร่งรีบ
- Comfort โหมดทั่วไป สำหรับใช้งานปกติ
- Sport เกียร์มีการ match รอบกับความเร็ว คันเร่งนี่เรียกได้ว่า จุ่มแล้วมาเลย
- Individual สามารถปรับเองได้ จะengine: comfort steering:sport เรา custom เองได้หมดเลย
เกียร์ฉลาดมากๆ แต่ค่อนข้างแอบเปลี่ยนเกียร์เร็วไปหน่อยตามสไตล์เบนซ์
โลเคชั่นมันได้ น่าถ่ายรูป 🙈
รูปนี้แอบมองไปเห็นกระจกมองหลังเลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่าย 🤣 เอาเป็นว่าเบาะสบายขนาดไหนไม่รู้ที่รู้ๆคือคนข้างหลังนั่งหลับเกือบจะตลอดทาง
ลาปิด ทริปกันแบบสวยๆ กับ พระเอกของเรา Mercedes Benz GLC 220d คันนี้เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกล ขับง่าย สบาย มั่นใจทุกจังหวะเร่งแซง และทางโค้ง ลุยได้แบบไม่ต้องกลัวอะไร พื้นที่ห้องโดยสาร สบายไม่อึดอัด เหลือๆ พร้อมด้วยที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ จัดเต็ม