มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัวซูเปอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุด “MC20” ที่หลอมรวมความหรูหรา ความสปอร์ต และสมรรถนะอันเหนือชั้น ตามแบบฉบับของยนตรกรรมจากค่ายตรีศูล อีกทั้งยังเป็นซูเปอร์คาร์ที่ผลิตในอิตาลี 100% ในราคาเริ่มต้น 21.5 ล้านบาท
MC20 เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของ Maserati ที่สะท้อนตัวตนและประวัติศาสตร์บนสนามแข่งได้เป็นอย่างดี ล่าสุดสามารถคว้ารางวัล ซูเปอร์คาร์สวยที่สุดแห่งปี 2021 “Most beautiful supercar of the year 2021” ในงาน Festival Automobile International กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และ ซูเปอร์สปอร์ตคาร์ยอดเยี่ยม “Super Sports Car of the Year” แห่งปี 2021 ในงาน GQ Car Awards 2021 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
อักษร MC ย่อจาก Maserati Corse ขณะที่ตัวเลข 20 มาจากปีที่เปิดตัว (2020) รูปลักษณ์ของ MC20 ใช้เวลาในการรังสรรค์ประมาณ 2 ปี ด้วยความร่วมมือตั้งแต่ต้นของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab, ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจาก Maserati Engine Lab และบรรดานักออกแบบจาก Maserati Style Centre
รูปลักษณ์ภายนอกของ MC20 ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงตัวตนและประวัติศาสตร์ของแบรนด์ หลอมรวมความงามสง่า สมรรถนะ และความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว การให้ความสำคัญกับสมรรถนะ ก็ส่งผลให้รถมีบุคลิกโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ขณะที่ประตูเปิดขึ้นแบบปีกผีเสื้อ ไม่เพียงงดงาม แต่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดดเด่น สามารถเข้า-ออกได้สะดวก
รวมถึงระบบอากาศพลศาสตร์ผ่านการออกแบบและปรับแต่งในอุโมงค์ลมที่ Dallara Wind Tunnel โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2,000 ชั่วโมง และการทดสอบ CFD (Computational Fluid Dynamics) กว่า 1,000 ครั้ง ซึ่งผลลัพธ์ก็น่าประทับใจเพราะมีเพียงสปอยเลอร์หลังขนาดพอเหมาะ ที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความงดงาม มาพร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำกว่า 0.38
สำหรับเครื่องยนต์ Nettuno นับเป็นขุมพลังบล็อกแรกของยุคใหม่แห่งค่ายตรีศูล เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ 630 แรงม้า (HP) แรงบิด 730 นิวตันเมตร ที่มีเทคโนโลยีโดดเด่นจนได้รับสิทธิบัตรจากสถาบันนานาชาติ เรียกว่า MTC (Maserati Twin Combustion) ซึ่งเป็นระบบสันดาปภายในอันล้ำสมัย ที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดย มาเซราติ
จุดเด่นของเครื่องยนต์บล็อกนี้คือ ระบบเผาไหม้ช่วยเหลือ เรียกว่า (Pre-chamber Combustion System) พัฒนาจากเทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลาวัน และนำมาใช้กับเครื่องยนต์ของซูเปอร์คาร์เป็นครั้งแรก ระบบห้องเผาไหม้ช่วยเหลือจะทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการจุดระเบิดในเครื่องยนต์ เพื่อรีดแรงม้าได้อย่างเต็มกำลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุดกว่า 325 กม./ชม.
และนับเป็นเครื่องยนต์ที่ มาเซราติ ผลิตขึ้นด้วยตนเองอีกครั้ง หลังจากหยุดไปนาน 20 ปีการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่งผลให้รถมีน้ำหนักพิกัดที่ต่ำกว่า 1,500 กก. นับว่าเบามาก ขณะที่เครื่องยนต์ทรงพลัง 630 แรงม้า ก็ส่งผลให้รถคันนี้ มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าอยู่ที่ 2.33 กก./แรงม้า ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ความได้เปรียบด้านน้ำหนักเกิดจากการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบาย
การออกแบบภายในห้องโดยสาร มีเป้าหมายให้ผู้ขับเป็นจุดศูนย์กลาง โดยไม่มีสิ่งใดมารบกวนประสบการณ์ขับ อุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการออกแบบและติดตั้งอย่างประณีต เน้นดีไซน์เรียบง่าย ไร้สันคม เพื่อไม่ให้รบกวนสมาธิผู้ขับ ติดตั้งจออเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว บริเวณเรือนไมล์ และอีกตัวบริเวณกลางแดชบอร์ดสำหรับระบบ Maserati Touch Control Plus (MTC Plus MIA)
ขณะที่คอนโซลกลางตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ก็ดูเรียบง่าย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็น อาทิ จุดชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย, ปุ่มปรับ 5 โหมดการขับ (GT, Wet, Sport, Corsa และ ESC Off ที่ตัดการทำงานของระบบควบคุมเสถียรภาพ), 2 ปุ่มเลือกความเร็วในการขับ, ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้า และปุ่มควบคุม Multimedia System รวมถึงมีช่องเก็บของบริเวณใต้ที่พักแขน ส่วนปุ่มควบคุมอื่นๆ ติดตั้งอยู่บนพวงมาลัย ขนาบข้างด้วยปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ทางซ้าย และปุ่ม launch control ทางขวา
ตัวถังมี 6 สีพิเศษที่ผลิตขึ้นสำหรับ MC20 โดยเฉพาะ คือ ขาว Bianco Audace, เหลือง Giallo Genio, แดง Rosso Vincente, น้ำเงิน Blu Infinito, ดำ Nero Enigma และ เทา Grigio Mistero สามารถสะท้อนจุดเด่นที่สำคัญของรถได้เป็นอย่างดี อาทิ การเป็นยนตรกรรมที่ผลิตในอิตาลี, บุคลิกสไตล์อิตาเลียน และความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมของ Maserati MC20 ผ่านการออกแบบให้รองรับทั้งตัวถังคูเป้, เปิดประทุน และเวอร์ชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน
พบกับ มาเซราติ MC20 ครั้งแรกในอาเซียน วันที่ 24 มีนาคม ถึง 4 เมษายน 2564 ที่บูท มาเซราติ (A5) ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี