ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้พลังงานไฟฟ้า Land Rover จะย้าย Discovery Sport และ Evoque ไปยังแพลตฟอร์มใหม่ “native electric” นั้นก็อาจหมายความว่าทั้งคู่จะกลับมาบนขุมพลังไฟฟ้าหรือไฮบริดเท่านั้น
การเปิดเผยมาจาก Autocar และเป็นไปตามการประกาศล่าสุดว่าผู้ผลิตรถยนต์จะมีสองแพลตฟอร์มสำหรับยานพาหนะทั้งหมดในอนาคตอันใกล้นี้ จากข้อมูลของ JLR Modular Longitudinal Architecture (MLA) และ Electrified Modular Architecture (EMA) จะเป็นพื้นฐานสำหรับ Land Rovers รุ่นต่อไปทั้งหมด
ยานพาหนะที่ใช้แพลตฟอร์ม MLA จะยังคงมีศักยภาพในการจำหน่ายในรูปแบบ mild-hybrid ในขณะที่รถที่ใช้แพลฟอร์ม EMA จะมุ่งเน้นไปที่ระบบส่งกำลังไฟฟ้าอย่างเข้มข้นมากขึ้น Land Rover บอกกับนักลงทุนว่าจะเปิดตัวรถยนต์ที่ใช้ EMA คันแรกในปี 2024 และมีแผนจะสร้าง EV 6 รุ่นใน 5 ปีข้างหน้า
EMA ได้รับการออกแบบโดยใช้แบตเตอรี่ใต้พื้นและเทคโนโลยี 800V ผู้ผลิตรถยนต์หวังว่าจะมีประสิทธิภาพถึง 4-4.5 ไมล์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงซึ่งจะเทียบเท่ากับ Tesla Model 3 Standard Range Plus การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ชื่อเสียงในการผลิตรถออฟโรดของ Land Rover จะยังคงอยู่ เพราะทางค่ายกล่าวว่าพวกเขาได้พัฒนาชุดขับเคลื่อนที่มีแรงบิดหนาแน่นที่สุดในระดับเดียวกัน และแม้ว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีศูนย์กลางอยู่ที่ยานยนต์ไฟฟ้า แต่ก็สามารถรองรับเครื่องยนต์สำหรับปลั๊กอินไฮบริดได้
ผู้ผลิตรถยนต์มีแผนใหญ่สำหรับกลยุทธ์การใช้พลังงานไฟฟ้าเนื่องจากตั้งเป้าไว้ว่า 60% ของยอดขายทั่วโลกจะเป็น EV และ 10% จะเป็น plug-in hybrid ภายในปี 2030 ในขณะเดียวกันแพลตฟอร์ม MLA จะเปิดตัวในปี 2022 – 2023 และจะเป็นพื้นฐานสำหรับยานพาหนะเช่น Range Rover และ Range Rover Sport JLR กล่าวเพิ่มเติมว่าแม้ว่าจะเน้นระบบ EV น้อยกว่า แต่สถาปัตยกรรมก็มีความสามารถในการรองรับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างเต็มที่
ที่มา : carscoops