ตลาดรถยนต์ตลอดช่วงครึ่งปีแรก 2020 ประสบกับปัญหาหนักจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน การทำธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม หดหายกันเป็นแถบๆ
รวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็สู้ไม่ถอย! ยังคงพยายามหามาตรการเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ รุ่นปรับโฉม หรือรุ่นพิเศษ ที่จะเข้าสู่ตลาดเมืองไทย ไม่ว่าจะค่ายรถยนต์ชั้นนำทั้งจากเอเชีย ยุโรป อเมริกา พร้อมใจกันเดินหน้าเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อตอบสนองสาวกที่ชอบยานยนต์แห่งความทันสมัย
วันนี้ Carvariety ได้รวบรวมรถยนต์ใหม่ที่เปิดตัวในครึ่งปีแรก 2020 ของแต่ละค่าย ก่อนโชว์คันจริงในงาน Motor Show 2020 มาให้ชมกัน จะมีค่ายไหนรุ่นไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ เริ่มจาก (สามารถดูรายละเอียดข้อมูลตัวรถแต่ละรุ่นได้ โดยคลิกที่ชื่อรุ่น หรือรูปภาพ)
รถยนต์ซีดานระดับเรือธงใหม่ล่าสุด นำเสนอ 2 รุ่นย่อยที่เป็นรถยนต์ประกอบภายในประเทศ ได้แก่ BMW 745Le xDrive M Sport เครื่องยนต์ไฮบริด และ BMW 730Ld sDrive M Sport เครื่องยนต์ดีเซล
BMW 745Le xDrive M Sport มาพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดใหม่ล่าสุด ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics และมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังรวมสูงสุด 394 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด ส่งกำลังจากหยุดนิ่งถึง 100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม.ต่อชม. นอกจากนี้ความเร็วสูงสุดในการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าล้วน ยังเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 140 กม.ต่อชม. ช่วยขับเคลื่อนแบบปลอดมลภาวะได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มีราคาจำหน่ายที่ 6,439,000 บาท
ส่วน BMW 730Ld sDrive M Sport ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000 –2,500 รอบต่อนาที ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม.ต่อชม. ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด ร่วมกับระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับอัตโนมัติ และเทคโนโลยีแชสซีใหม่ Executive Drive Pro ที่ทำงานประสานกับระบบช่วงล่าง มอบการควบคุมที่เฉียบคม คล่องตัวและปราดเปรียวยิ่งขึ้น มีราคาจำหน่ายที่ 6,139,000 บาท
รถยนต์ Volvo NEW Generation ในตระกูล 60-Series ที่ได้เปิดตัวด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น R-Design เพื่อลุคที่โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวแบบสปอร์ต และรุ่น Momentum เพื่อความหรูหราภูมิฐานที่เหนือระดับ
The All-New Volvo S60 เป็นรถยนต์ที่มีความยาวและหน้ากว้างที่สุดในรถยนต์กลุ่มเดียวกัน ทั้งยังขับขี่ได้อย่างสนุกสนานและเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมด้วยเครื่องยนต์รุ่น T8 TWIN ENGINE PLUG-IN HYBRID ให้กำลัง 407 แรงม้า สามารถพาคุณพุ่งทะยานจาก 0-100 กม.ต่อชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที Volvo S60 ใหม่ มาพร้อมราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท สำหรับรุ่น Momentum และรุ่น R-DESIGN ในราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท
Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic
C 200 Coupé AMG Dynamic ที่พร้อมจะปลุกความสปอร์ตในตัวคุณ ด้วยรูปทรง Coupé สองประตู พร้อมเครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่ขนาด 1,991 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,000 รอบต่อนาที และมาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบ 9G-TRONIC อันทรงพลังที่ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันลงได้ถึง 6.5% พร้อมมอบประสบการณ์ การขับขี่ที่นุ่มนวล และยังสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ในเวลาเพียง 7.2 วินาที มีวางจำหน่ายในราคา 3,450,000 บาท
Mercedes-Benz E 200 Coupé AMG Dynamic
E 200 Coupé AMG Dynamic อีคลาส 2 ประตู แบบสปอร์ตคูเป้ เครื่องยนต์ใหม่กินน้ำมันเชื้อเพลิงน้อยลง ซึ่งมาพร้อมกับสมรรถนะเร้าใจของเครื่องยนต์เบนซิน 1,991 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 197 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตรที่ 1,650-4,000 รอบต่อนาที มีวางจำหน่ายในราคา 4,440,000 บาท
Mercedes-Benz E 300 Cabriolet AMG Dynamic
E 300 Cabriolet AMG Dynamic อีคลาส 2 ประตู แบบสปอร์ตเปิดประทุน ด้วยหลังคาแบบ Soft top fabric ที่สามารถ เปิด-ปิด ได้ภายในระยะเวลาเพียง 20 วินาที มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1,991 ซีซี ที่ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ให้แรงบิด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,800-4,000 รอบต่อนาที และเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ แบบ 9G-TRONIC อันทรงพลัง สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม. เพื่อให้คุณได้โลดแล่นอย่างไร้ขีดจำกัด มีวางจำหน่ายในราคา 5,440,000 บาท
MINI Cooper SE รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกจาก MINI ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้น มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าใน Cooper SE เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร ส่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.9 วินาที และสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 7.3 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล ติดตั้งในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ มีความจุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง
แบตเตอรี่แรงดันสูงสามารถรองรับสายชาร์จทั้งแบบมาตรฐานและสายชาร์จจาก MINI ELECTRIC Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ชาร์จถึง 80% ภายใน 2.5 ชั่วโมง และชาร์จเต็ม 100% ภายใน 3.5 ชั่วโมง และหากชาร์จจากสถานีที่เป็นหัวชาร์จแบบ DC fast-charging จะช่วยให้สำรองพลังงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่ง Cooper SE ได้รับการออกแบบมาให้รองรับพลังงานในการชาร์จได้สูงสุด 50 กิโลวัตต์ ชาร์จได้ถึง 80% ภายในเพียง 36 นาที มีราคาจำหน่าย 2,290,000 ล้านบาท
Mercedes-Benz GLC 300 e ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ ได้เปิดตัว 2 รุ่นย่อย คือ Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic และ GLC 300 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic
โดยทั้ง 2 รุ่น ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร รวมเป็นกำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดแบบ 9G-TRONIC ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลมากขึ้นและประหยัดการใช้พลังงานได้ถึง 6.5% ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC
- Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC AMG Dynamic มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,749,000 บาท
- Mercedes-Benz GLC 300 e 4MATIC Coupé AMG Dynamic มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,090,000 บาท
รถยนต์พรีเมียมคอมแพกต์ 4 ประตู ซึ่งได้แรงบันดาลใจการดีไซน์มาจากรถยนต์คูเป้รุ่นคลาสสิก ออกมาเป็นสไตล์สปอร์ตโหลดเตี้ยทรงกว้าง ถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร และเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,480-4,200 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด Steptronic แบบคลัทช์คู่ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 8.7 วินาที และความเร็วสูงสุด 215 กม.ต่อชม. ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,399,000 บาท
BMW 320d M Sport และ 330e M Sport
BMW Serie 3 เจเนอเรชั่นที่ 7 ได้เสริมทัพเข้ามาพร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ BMW 320d M Sport ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุดได้ถึง 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 240 กม.ต่อชม. ด้วยราคาจำหน่าย: 2,549,000 บาท
สำหรับรุ่น BMW 330e M Sport มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังสูงสุด 292 แรงม้า และสามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost และปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที มีอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 230 กม.ต่อชม. ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,799,000 บาท
MINI Cooper S Countryman Hightrim
มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน ไฮทริม ใหม่ (MINI Cooper S Countryman Hightrim) มาในรูปลักษณ์ปราดเปรียวและคลาสสิกในสไตล์คันทรีแมน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบกำลังสูงสุดถึง 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ Steptronic 7 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อม Paddle Shift พวงมาลัยหนังแท้สไตล์ MINI Yours แบบสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และล้ออัลลอยสีดำลาย Pin Spoke ขนาด 18 นิ้ว ขับขี่ได้สนุกทันใจแบบมีสไตล์ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,499,000 บาท
Mercedes-AMG CLA 45 S 4MATIC+ รถยนต์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู เสริมสมรรถนะความแรงด้วยท่อไอเสียแบบ AMG Real Performance Sound ให้เสียงคำรามเร้าใจต่างกันตามโหมดการขับขี่
พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 421 แรงม้า ที่ 6,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 5,000-5,250 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
สำหรับใครที่ต้องการสนุกกับการขับขี่ในรูปแบบของเกียร์แมนนวลก็สามารถเลือก M-mode ที่อยู่ในทุกโหมดการขับขี่ ทั้งโหมด Comfort โหมด Sport โหมดSport+ และ โหมด RACE สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ภายในเวลา 4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีวางจำหน่ายในราคา 4.999 ล้านบาท
CLA 35 4MATIC สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู ถ่ายทอดจิตวิญญาณจากสนามแข่งสู่ดีไซน์สปอร์ตทั้งภายนอกและภายในได้อย่างลงตัว พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์ AMG ขนาด 2.0 ลิตร แบบเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ได้ในเวลาเพียง 4.9 วินาที พร้อมเพิ่มการตอบสนองเร็วขึ้นด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (AMG SPEEDSHIFT DCT 7G transmission) มีวางจำหน่ายในราคา 3.999 ล้านบาท
ยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวีเจเนอเรชั่นใหม่รุ่นแรกของ Mazda ที่ KODO: Soul of Motion ได้ยกระดับการดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พิถีพิถันทุกรายละเอียด ดุจงานศิลปะชิ้นเอก และยังเป็นสมาชิกใหม่ตระกูล CX ซีรี่ มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC PLUS เหนือระดับด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาให้สมรรถนะความแรงและประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง E85 ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร เคาะราคาเริ่มต้นที่ 989,000 – 1,199,000 บาท
LM 300h ใหม่ เป็นลักซ์ชัวรี่แวนที่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นยานยนต์ที่มีการออกแบบได้อย่างโดดเด่น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400- 4,800 รอบต่อนาที ผสานกำลังร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่อยู่ด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังรวมทั้งระบบ 197 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT และความเร็วสูงสุด 180 กม.ต่อชม. เคาะราคาเริ่มต้นที่ 5,500,000 – 6,500,000 บาท
ซูเปอร์สปอร์ตคาร์รุ่นใหม่ ที่สืบทอดดีไซน์อันทรงพลังของเครื่องยนต์ V10 NA ลัมโบร์กินี พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ทั้งหน้าและหลัง แตกต่างจาก Huracán EVO 4WD อย่างชัดเจน ขับเคลื่อนด้วยพละกำลัง 610 แรงม้า และแรงบิด 560 นิวตันเมตร ซึ่งถูกส่งตรงไปที่ล้อคู่หลังเพื่ออรรถรสสูงสุดแห่งการขับขี่ และด้วยน้ำหนักตัวเพียง 1,389 กิโลกรัม Huracán EVO RWD มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และยังสามารถเร่งความเร็วได้สูงสุดถึง 325 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะบนทางตรง Huracan EVO RWD ยังใส่ใจกับดีไซน์ใหม่เฉพาะตัวด้วยชุดแอโรไดนามิกใหม่ จึงเรียกว่าเป็นรถของผู้ที่รักในการขับขี่อย่างแท้จริง เคาะราคาเริ่มต้นที่ 19.8 ล้านบาท
New Volvo XC60 T8 AWD Polestar Engineered
คอมแพคท์ครอสโอเวอร์สมรรถนะสูง Volvo XC60 T8 AWD Polestar Engineered ครั้งแรกกับรถยนต์ระบบ Plug-In Hybrid จากวอลโว่ที่มาพร้อม Polestar Software ติดตั้งจากโรงงาน กำลังเร่งอันดุดันและเปี่ยมด้วยพลังขับเคลื่อนมากขึ้นด้วยเครื่องยนต์ T8 Twin Engine กำลัง 422 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร พร้อม Polestar Software และโครงแชสซี Polestar ล้ออัลลอย Forged ให้น้ำหนักเบาโทนสีดำ ขนาด 21 นิ้วแบบ 5 ก้าน มีวางจำหน่ายในราคา 4.39 ล้านบาท (นำเข้า CBU)
รถสปอร์ตทรงพลังที่สุดในตระกูล M ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 เสริมความแรงด้วยเทคโนโลยี M TwinPower Turbo มอบกำลังสูงสุด 625 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,860 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 สปีด พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic กระจายกำลังลงสู่ล้อด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เทคโนโลยี M xDrive สามารถทำอัตรเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 250 กม.ต่อชม. มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 17,999,000 บาท
BMW X6 เจเนอเรชั่นที่ 3 นี้มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มความดุดันภาพลักษณ์ที่สะท้อนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ภายใต้รูปแบบสปอร์ตเอสยูวี ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ ให้กำลังสูงสุดถึง 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที มอบแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ Sport Steptronic 8 สปีด สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม.ต่อชม. ได้ภายใน 6.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กม.ต่อชม. ด้านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive เจเนอเรชั่นล่าสุด ส่งแรงบิดแบ่งล้อหน้าและหลังได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการในแต่ละสถานการณ์ด้วยความแม่นยำและความเร็วที่มากยิ่งขึ้น มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,299,000 บาท
John Cooper Works GP ใหม่ ได้รับการออกแบบบนพื้นฐานของรถแข่งอย่างแท้จริง และเป็นรถมินิที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo เจเนอเรชั่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อหน้าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Steptronic แบบ 8 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 กม.ต่อชม. ภายใน 5.2 วินาที และท็อปสปีด 265 กม.ต่อชม. มีวางจำหน่ายในราคา 4,200,000 บาท
Nissan Kicks e-Power รถยนต์คอมแพ็คเอสยูวีรุ่นล่าสุดในตลาด ที่ขับเคลื่อนเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ด้วยขุมพลัง e-Power เทคโนโลยีอี-พาวเวอร์ ของนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) 12 วาล์ว 3 สูบ รับหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และยังมีส่วนประกอบของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ อาทิ เครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ EM57 ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) มีจำนวน 4 โมดูล เทคโนโลยีนี้มอบการเร่งความเร็วที่ราบรื่น การขับขี่ที่เงียบ และการประหยัดน้ำมันที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาเริ่มต้นช่วงเปิดตัว 889,000 – 1,049,000 บาท
ม้าลำพองที่ทรงพลังที่สุด!! เปิดตัวครั้งแรกในไทย มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 769 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบไฮบริดที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวจะถูกติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์ V8 และเกียร์ดูอัลคลัตช์แบบ 8 สปีดใหม่ ขณะที่อีก 2 ตัวจะอยู่ที่เพลาหน้า
มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 3 ตัวจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 7.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ผลิตกำลังได้ 217 แรงม้า และเมื่อกำลังทั้งหมดถูกถ่ายทอดไปยังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ SF90 Stradale สามารถให้กำลังสูงสุด 1,000 แรงม้า โดยนับเป็นเครื่องยนต์ V8 ที่ทำแรงม้าได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเฟอร์รารี่
ด้วยขุมพลังอันล้นเหลือ Ferrari SF90 Stradale สามารถให้อัตราเร่งอันน่าทึ่งได้ถึง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 2.5 วินาที และทำ 0-200 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.7 วินาที ขณะที่ท็อปสปีดทำได้ 340 กม.ต่อชม. ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 25 กม. มีวางจำหน่ายในราคา 40,900,000 บาท
ไมเจอร์เชนจ์ โฉมใหม่ ที่เพิ่มความน่าสนใจเรียกกระแสความคึกคักในตลาด รถยนต์ ให้กลับมาอีกครั้ง กับ Toyota Hilux Revo ที่มี 4 รุ่นหลัก 40 รุ่นย่อย สำหรับเครื่องยนต์และสมรรถนะ ทั้งหมด 4 รูปแบบ
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 2,800 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.4 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 6 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีดขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อม Sequential Shift
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ที่ 1,200 – 3,400 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 5 สปีด
- เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.8 ลิตร 4 สูบแถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 544,000 – 1,239,000 บาท
Toyota Fortuner 2020 หรือชื่อเต็มๆ ว่า Toyota Fortuner Legender ได้เผยโฉมใหม่นายแบบไมเนอร์เชนจ์ออกมาเรียบร้อยแล้วพร้อมกัน 4 รุ่นย่อย สำหรับเครื่องยนต์มีด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้
- เครื่องยนต์ดีเซล 4 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,000 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือก แบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4WD
- เครื่องยนต์ดีเซล 8 เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 240 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีให้เลือกแบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4WD พร้อมระบบ Auto start Stop ในรุ่น 4WD
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,319,000 – 1,839,000 บาท
ยนตรกรรมคูเป้รุ่นล่าสุดจากค่ายม้าลำพองกับความงดงามเหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทย ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ ผลิตกำลังได้ถึง 620 แรงม้า ที่ 7,500 รอบ/นาที ส่งให้เป็นรถที่มีพลังมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมแรงบูสต์แบบแปรผัน (Variable Boost Management) ช่วยให้คันเร่งตอบสนองได้ฉับไวในทุกจังหวะความเร็ว รวมทั้งชุดเกียร์ใหม่แบบ 8 สปีด คลัทช์คู่ มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น เปลี่ยนจังหวะได้รวดเร็วและนุ่มนวลกว่าเดิม ส่งผลให้รถตอบสนองได้ฉับพลันเมื่อขับขี่บนถนนเปิดโล่ง สำหรับราคาของ Ferrari Roma เริ่มต้นที่ 21,230,000 บาท
Mercedes-Benz C 300 e AMG Sport
C 300 e AMG Sport คือรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ดีไซน์สปอร์ตที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า EQ Power เจเนอเรชันที่ 3 ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,991 ซีซี พร้อมระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 จังหวะแบบ 9G-TRONIC ที่ให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร
เมื่อผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดดีขึ้นอีกที่ 122 แรงม้า จึงช่วยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นที่สุด ทั้งการช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ด้วย E-Mode ได้ไกลกว่าเดิมถึง 30% และมอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร ที่สามารถทำได้ในเวลาเพียง 5.4 วินาที มีวางจำหน่ายในราคา 2,699,000 บาท
MU-X The New ONYX ใหม่ อัพออพชั่น แต่ไม่อัพราคา ที่มาพร้อมชุดแต่ง THE ABSOLUTE ONYX EDITION ใหม่รอบคัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมสมรรถนะอันโดดเด่น ด้วยระบบความปลอดภัยสมบูรณ์แบบครบครัน สำหรับทุกรูปแบบการขับขี่ โลดแล่นอย่างไร้ขีดจำกัดกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ให้ทั้งความแรงและประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม มีให้เลือก 4 สี ราคาจำหน่ายเท่าเดิมตั้งแต่ 1,364,000 – 1,421,000 บาท
CIAZ โฉมใหม่ ที่ยังคงไม่ทิ้งลวดลายความเป็นสปอร์ตอีโอคาร์ ภายในแนวคิด “สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ” ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B ความจุ 1.25 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมัน E20 ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 523,000 – 675,000 บาท
New Mitsubishi Xpander Cross
Xpander Cross รถ MVP 7 ที่นั่ง สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์ DYNAMIC SHIELD เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด เปี่ยมด้วยความทันสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร พละกำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที เครื่องยนต์รุ่นนี้ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของเครื่องยนต์ตระกูล 4A9 โดยมีการปรับปรุงความเงียบในการทำงานและความประหยัดเชื้อเพลิง เครื่องยนต์รุ่นนี้ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด พร้อมกับมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมทั้งการเดินทางผ่านการจราจรในเมืองและบนถนนทางไกล ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 899,000 บาท
New Audi Q7 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล พรีเมียมเอสยูวีสุดล้ำดีไซน์
Audi A6 รุ่นปรับโฉมใหม่ อีกหนึ่งไอคอนของอาวดี้ที่ขายดีติดชาร์ตของยุโรป มีความสปอร์ต และจัดสเปคเกินคุ้ม ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร 4 สูบ และระบบไมลด์ไฮบริดให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร A6 40 TFSI S line ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 237 กม./ชม.ส่วน A6 Avant 40 TFSI S line อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 8.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 232 กม./ชม. โดยมี 2 รุ่น ในราคาจำหน่ายเดียวกันที่ 3.399
MG ZS โฉมใหม่ ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวี ด้วยยกระดับสู่การเป็น “สมาร์ทเอสยูวี ที่เหมาะกับชีวิตสมาร์ทของทุกคน” ซึ่ง MG ZS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ใหม่ 8 สปีด และสามารถปรับโหมดพวงมาลัยได้ถึง 3 โหมด คือ โหมด City สำหรับการขับขี่ในเมือง โหมด Standard สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport สำหรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตที่จะให้ความเร้าใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 689,000 – 799,000 ล้านบาท
630i GT M Sport แกรนด์ทัวเรอร์โฉมใหม่ มาพร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 258 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตรที่ 1,550 – 4,400 รอบต่อนาที ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Sport Steptronic เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งสู่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งยังมีช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน BMW 630i GT M Sport ใหม่ มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,399,000 บาท
New Land Rover Discovery Sport
Land Rover Discovery Sport ใหม่ สัดส่วนและรูปทรงของรถได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้รถมีขนาดกะทัดรัดและดูโดดเด่นสะดุดตาโดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อฟังก์ชันการทำงาน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Ingenium ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 180 แรงม้า และรุ่นระบบไฟฟ้าไฮบริดแบบปลั๊กอิน (PHEV) เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร 3 สูบ กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง มาพร้อมคุณสมบัติขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมกับ Active Driveline รุ่นที่สองที่มี Driveline Disconnect เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ Adaptive Dynamics เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายและความคล่องตัวไปพร้อม กัน Terrain Response 2 ทำงานโดยตรวจจับพื้นผิวการขับขี่โดยอัตโนมัติและปรับการตั้งค่าไปตามสภาพพื้นผิวที่ตรวจจับได้ โดยสามารถลุยน้ำได้ลึกได้ถึง 600 มม. จัดจำหน่ายในราคา 3,799,000 บาท
MX-5 รุ่นปี 2020 มาพร้อมการออกแบบภายใต้แนวคิด จินบะ อิไต (Jinba-Ittai) ที่ถ่ายทอดความรู้สึกความเป็นหนึ่งอันเดียวกันระหว่างคนกับรถ ที่ยกระดับดีไซน์สู่ความพรีเมี่ยม ด้วยเครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,905,000 บาท
Audi A5 Coupé ปรับดีไซน์ใหม่ สปอร์ตขึ้น ปราดเปรียวยิ่งกว่าเดิม มาพร้อมสมรรถนะลุคสปอร์ต ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Mild Hybrid แบบ 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ทำงานควบคู่กับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro with ultra technology ปรับกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างอิสระภายในเสี้ยววินาที โดยเครื่องยนต์รุ่น 45 TFSI ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
ส่วนเครื่องยนต์ Mild Hybrid รุ่น 40 TFSI ให้กำลังสูงสุด190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. มีให้เลือก 4 สี คือ Glacier White, Mythos Black, Quantum Grey และ Navarra Blue ราคาขายแนะนำเริ่มต้น 2,699,000 – 3,599,000 บาท
Audi A5 Sportback นำเข้ามาให้เลือกถึง 2 รุ่นย่อย คือ รุ่นเริ่มต้น The New Audi A5 Sportback 40 TFSI S line และรุ่นท๊อป The New A5 Sportback 45 TFSI quattro S line Black Edition
โดยรุ่น 45 TFSI มาพร้อมเครื่องยนต์ Mild Hybrid แบบ 4 สูบ เทอร์โบชาร์จรุ่นใหม่ ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.0 วินาที ทำความ เร็วสูงสุด 250 กม./ชม ที่สามารถทำทั้งแรงม้าและแรงบิดได้ในช่วงรอบที่กว้างในลักษณะ Flat Torque ทำให้รถออกตัวดี มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ quattro with ultra technology ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line และ Black Edition Audi A5 Sportback 45 TFSI quattro S line Black Edition มีราคาขายแนะนำ 3,599,000 บาท
ส่วนรุ่น 40 TFSI มาพร้อมครื่องยนต์ Mild Hybrid แบบ 4 สูบ เทอร์โบชาร์จรุ่นใหม่เช่นกัน แต่ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน ขับเคลื่อนล้อหน้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.5 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 239 กม./ชม Audi A5 Sportback 40 TFSI S line มีราคาขายแนะนำ 2,699,000 บาท
Jaguar F-Type โฉมใหม่ ยังคงมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแกร่งที่มากขึ้นเพื่อสร้างรูปแบบความประณีตบรรจงอย่างสมบูรณ์ และยังเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย F-Type โฉมใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินซูเปอร์ชาร์จแบบ V8 ขนาด 5.0 ลิตร กำลังสูงสุด 575 แรงม้า ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยการปรับแบบพลศาสตร์ และเครื่องยนต์ Ingenium เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 6,400,000 – 13,000,000 บาท
X4 xDrive20d M Sport X โฉมใหม่ เสริมลุคสปอร์ตให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ล้ำสมัย ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport X มอบพละกำลังสูงสุดที่ 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบต่อนาที จึงเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ก่อนทะยานสู่ความเร็วสูงสุดที่ 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้สมรรถนะที่คล่องตัวในทุกสภาพท้องถนนด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight บีเอ็มดับเบิลยู X4 จึงมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.30 ซึ่งนับว่ายอดเยี่ยมที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ภายในเซกเมนต์เดียวกัน ยังคงมาในราคาเดิม คือ 3,999,000 บาท
Levante Grigio Matte Edition รุ่นพิเศษ เปิดตัวครั้งแรกในไทย เพียง 50 คันทั่วโลกเท่านั้น!! ที่มาพร้อมตัวถังสีเทาด้าน Grigio Lava และชุดแต่ง Nerrissimo Pack ขับเคลื่อนอย่างเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ ทวินเทอร์โบ 350 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มาพร้อม warranty 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และ Premium Maintenance Program 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 10 ปี ให้แก่ยนตรกรรมสายพันธุ์สปอร์ต 4 ประตู Panamera ด้วยการเปิดตัวรุ่นพิเศษ 10 Years Edition ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ไบเทอร์โบ ขนาดความจุ 2.9 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 330 แรงม้า และสำหรับ Panamera 4 E-Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ไบเทอร์โบ ขนาดความจุ 2.9 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สมรรถนะสูงที่ให้กำลังถึง 136 แรงม้า เมื่อทำงานควบคู่กันสามารถให้พละกำลังสูงสุดกว่า 462 แรงม้า ในราคาเริ่มต้น 8.5 ล้านบาท