เคยไหม?? อยากซื้อรถมือสองสักคันแต่ก็ดูไม่เป็น ลำพังจะให้เพื่อนหรือคนรู้จักไปดูให้เขาจะดูได้ละเอียดตรงตามใจเราไหม หลายคนที่จะซื้อรถมือสองจึงเกิดคำถามว่า..แล้วเราจะมั่นใจกับผู้ขายได้มากน้อยแค่ไหน ?? ?ในหัวเต็มไปด้วยความกลัว กลัวโดนย้อมแมวบ้าง กลัวรถโดนยำมาบ้าง? นั้นแหละ ถ้าอยากได้รถมือสองดีซักคันไว้ใช้งาน ?ไม่อยากขับไปซ่อมไป วันนี้เรามีวิธีการตรวจเช็คสภาพรถมือสองเบื้องต้น แบบง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเองมานำเสนอ
ดูสภาพตัวถังโดยรวมว่าผ่านอะไรมาบ้างหรือเปล่า
– หากเราชอบรถสักคัน เราจะชอบมันที่อะไร แน่นอนต้องดูที่รูปลักษณ์ภายนอกก่อนคล้ายกับ first impression ความประทับใจแรกทีได้เห็น เพราะฉะนั้นเราควรให้ความสำคัญกับส่วนนี้เป็นหลัก อันดับแรกที่ต้องดูเลยเป็นอื่นใดไม่ได้คือต้องดูสภาพตัวถังโดยรวม
– จอดรถไว้บนพื้นราบ จากนั้นใช้ตาเปล่าของเรานี้แหละ สังเกตว่า รถเอียงไปทางใดทางหนึ่งหรือไม่ หากรถเอียงไปทางใดทางหนึ่งสันนิษฐานได้เลยว่าเกิดจากความผิดปกติของช่วงล่างหรือตัวถังรถแน่นอน
– กันชนหน้า ไฟหน้า กระจังหน้า รวมถึงขาจุดโคมไฟหรือกันชนที่ยึดกับตัวถังรถต้องไม่ แตกหัก
– สังเกตเสาหลังคารถ ไม่ว่าจะเป็น เสา A , เสา B , เสา C, และหลังคารถ ว่ามีการบิดเบี้ยวผิดจากปกติไหม หากเกิดการ บิดเบี้ยว สันนิษฐานได้เลยว่ารถคันนี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำมาหรือโดนของแข็งที่มีน้ำหนักมากหล่นทับ เนื่องจาก เสา ?A , เสา B , เสา C นั้นแข็งแรงมาก
– การดูร่องประตู สังเกต ร่องระหว่างประตู ร่องระหว่างแก้มหน้า เสาประตูหน้า ประตูหลัง รวมถึงแก้มหลัง ว่าตามร่องประตูต่าง ๆ ทั้งสองด้านของตัวรถมีร่องที่เท่ากันไหม อาจเปรียบเทียบได้จากรถคันใหม่ ๆ หากร่องประตูมีความห่างหรือชิดไป สันนิษฐานไว้เลยรถอาจโดนชนมา
– การดูตะเข็บตัวถังหรือรอยอาร์ค จุดสังเกตแรก ๆ ที่ส่วนมากมักจะเลือกดูเป็นอันดับแรก คือด้านหน้ารถโดยเปิดฝากระโปรงรถขึ้นแล้วสังเกตตะเข็บทั้งสองข้างของตัวถัง สังเกตว่ามีรอยยุบบุบเบี้ยวหรือรอยอาร์คไหม ในส่วนด้านหลังของรถ รวมไปถึงตะเข็บขอบประตูและจุดอื่นๆ ก็สังเกตแบบเดียวกัน หากมีลอยบิดเบี้ยวหรือรอยอาร์ค แสดงว่ารถอาจจะประสบอุบัติเหตุมาหรือถูกตัดต่อตัวถังมาก็ได้ หากรถคันไหนไม่มีรอยดังกล่าก็ถือว่าผ่าน
ลองเคาะ ตรวจดูสีรถสักหน่อย
การดูสีดูง่าย ๆ ด้วยตาเปล่าของคุณเอง กวาดสายตาดูรอบ ๆ ให้ทั่วคันว่าสีสม่ำเสมอดีไหม ความเรียบเนียนของ สีเป็นยังไง ลองสังเกตดูซิว่า สีตรงไหนผิดเพี้ยนไปไม่เท่ากัน สังเกตจุดต่าง ๆ บนตัวรถ หากรถถูกทำสีใหม่มาเนียนกริ๊บก็ใช่ว่าจะดี เพราะสีเดิมซีด หรือ เป็นเพราะเกิดอุบัติเหตุมาอย่างหนัก ก็ควรที่จะดูแลพิจารณากันอีกที
– วิธีการเคาะ การเคาะฟังเสียง ให้เราใช้มือเคาะเบาๆ เพื่อฟังเสียงหากรถที่ยังไม่ได้ทำสีนั้นเสียงจะโปร่งๆ หน่อย แต่ถ้ารถที่ผ่านการทำสีมาแล้วเวลาเคาะเสียงจะทึบๆ การเคาะมีเทคนิคอยู่ง่ายๆ สมมุติว่าเราเคาะประตูด้านซ้ายแล้วเสียงออกมาโปร่งแล้วเราก็ไปเคาะประตูด้านขวาในตำแหน่งเดียวกันเสียงออกมาทึบๆ แสดงว่าประตูด้านขวาได้มีการโป๊วมา? เอาง่ายๆว่าเวลาเคาะจุดฝั่งซ้ายแล้วก็ไปเคาะจุดนั้นฝั่งขวาด้วยจะได้เทียบเสียงกันไปเป็นคู่ๆ เลย (เสียงทึบมากหรือการโป๊วหน้าอาจเกิดมาจากการที่รถเกิดอุบัติเหตุมาหนักก็เป็นได้….)
ของเหลวก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดู
ของเหลวในรถเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการดูแลรักษารถก็ว่าได้เหตุผลหลักๆที่รถเครื่องพังก็มาจากของเหลวพวกนี้นี่แหละ! ขาดบ้าง ใช้เกินอายุบ้าง ไม่ได้มาตรฐานบ้าง ฉะนั้นก่อนเราจะซื้อรถควรตรวจเช็คให้ดี เลยไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่องว่าอยู่ในระดับพอดีไหม มากไปหรือน้อยไป มีสีเป็นยังไงใสหรือขุ่นมีน้ำเข้าไปผสมไหม น้ำในหม้อน้ำมีสนิมปนอยู่ไหมมีสีเป็นเหมือนโอวันตินรึเปล่า (ถ้ามีสีเป็นแบบโอวันตินก็ รอรื้อเครื่องได้เลยแสดงว่ารถคันนี้เคย Over Heat มาก่อน) ตรวจให้ละเอียดไปจนกระทั่ง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค น้ำมันเพาเวอร์ ของเหลวทั้งหมด ว่าขาดหรือบกพร่องยังไง และที่สำคัญเมื่อสตาร์ทเครื่องแล้วลองก้มไปดูสักนิดว่ามีน้ำอะไรหยดลงพื้นหรือเปล่า
ที่สำคัญระบบไฟต้องเป๊ะ
ระบบไฟเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะในปัจจุบันรถยนต์มีเทคโนโลยีเข้ามาครอบคลุมเป็นส่วนใหญ่ ด้วยประสบการณ์ส่วนตัวที่ทุกคนอาจเคยเจอ กรณีเจ้าของบอกว่ารถปกติทุกอย่างพอสตาร์ทเครื่องปรากฏว่าไฟรูปแบตเตอรี่โชว์ ที่หน้าปัด นั้นหมายถึงว่า การเก็บไฟของรถมีปัญหา (ไดชาร์จ) ในกรณีที่อาจอ้างได้ว่าแบตเตอร์รี่เสื่อม วิธีดูง่าย ๆ ว่าได้ชาร์จเสียหรือเปล่า คือขณะที่รถกำลังสตาร์ทอยู่ให้ถอดขั้วแบตเตอร์รี่ออก หากเครื่องดับก็จะรู้ได้ทันทีว่า ไดชาร์จไม่เก็บไฟ หรือ พังนั่นเอง ฉะนั้นเวลาเราจะไปซื้อรถมือสองสักคันควรเช็คให้หมดว่า ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง ไฟเบรค ที่ปัดน้ำฝน กระจกไฟฟ้า และระบบไฟอื่น ๆ ทำงานได้ครบสมบูรณ์ไหม และอย่าลืมสังเกตที่หน้าปัดว่ามีสัญลักษณ์ check engine ต่าง ๆ ว่าติดค้างหรือไม่
ทดลองเข้าไปขับเลยด้วยตนเอง
การทดลองขับนี้แหละจะตอบโจทย์ทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเรา ว่านั่งสบายไหม? วิสัยทัศน์การขับขี่เป็นยังไง ระบบช่วงล่างแน่นหรือย้วย ระบบเบรกสูง-ต่ำ ตอนขับมีอะไรดังหรือเปล่า หักพวกมาลัยเลี้ยวสุด ว่ามีเสียงดัง แกร๊กๆๆๆ หรือไม่ หากได้ยินเสียงดังกล่าว ก็สันนิษฐานได้ว่า เป็นการดังมาจากหัวเพลา ในกรณีนี้ยางหุ้มเพลาอาจจะขาดหรือหัวเพลามีปัญหา อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องดูคือระบบแอร์ปกติไหม แล้วความร้อนของเครื่องยนต์สูงปกติหรือปเล่า ลองสังเกตให้ดี ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ
และทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่ใช้เป็นวิธีตรวจสภาพรถมือสองแบบเบื้องต้น ยังไงแล้วการจะซื้อรถมือสองสักคันอาจจะต้องศึกษาและทำการบ้านพอสมควร อีกสิ่งหนึ่งที่นอกเหนือจากสภาพรถนั้นเอกสารต่าง ๆ เลขตัวถัง รุ่น ปี ของรถว่าตรงกันหรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหามาให้ปวดหัวในภายหลัง