แม้ว่าอุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้นบนท้องถนนจะไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเพื่อนๆเอง แต่แน่นอนว่า ไม่ว่าใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็คงต้องอึ้งทำอะไรไม่ถูกใช่ไหมล่ะครับ
แต่จะใบ้อึ้งอยู่อย่างนั้นไม่ได้นะครับ! แม้ตัวเราจะไม่ใช่ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุรถชน แต่เมื่อเราพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว ก็ถือว่าเราอยู่ในฐานะผู้ที่สามารถเข้ามาช่วยเหลือให้ผู้บาดเจ็บรอดปลอดภัย ดังนั้น “สติ” จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์
เพราะการกระทำของเพื่อนๆอาจจะเปลี่ยนชีวิตของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนไปได้อย่างสิ้นเชิง จึงสำคัญมากๆที่เพื่อนๆควรเตรียมตัวและเรียนรู้วิธีดึงสติตัวเองกลับมา รวมไปถึงวิธีปฏิบัติหากเกิดอุบัติเหตุรถชนและเราต้องเข้าไปช่วย
ในวันนี้ พี่หมีจึงมี 6 สเต็ปสำคัญที่ให้ท่องเอาไว้ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ จะได้เข้าไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ทัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ
1. มีสติและประเมินสถานการณ์
เมื่อเพื่อนๆไปถึงที่เกิดเหตุ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือตั้งสติ แล้วพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเพื่อนๆก่อนเป็นหลัก หากเพื่อนๆรู้สึกตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก ก็ให้หายใจเข้าลึกๆก่อนเลยครับเพื่อตั้งสติตัวเองให้ดีๆก่อนที่จะลงมือทำอะไร
หากเพื่อนๆขับรถแล้วพบเจออุบัติเหตุรถชน ก็ให้จอดรถข้างทางอย่างปลอดภัย ไม่กีดขวางการจราจร หรือให้จอดขวางบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อกั้นไว้ ดับเครื่องให้ดี แล้วเปิดไฟฉุกเฉิน
เสร็จแล้วให้เพื่อนๆประเมินสถานการณ์ดูให้ดีๆ ว่าเราสามารถจะเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้หรือไม่ ณ ที่เกิดเหตุมีไฟลุกท่วมอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ควรจะปรี่เข้าไปทันทีนะครับ เพราะเราเองจะกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบเสียเองได้
ทางที่ดี ให้เพื่อนๆลองดูว่าในอุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บทั้งหมดกี่คน บริเวณโดยรอบมีกลิ่นแก๊สรั่วหรือมีควันไฟออกมาหรือไม่ มีเด็กอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่ แล้วรวบรวมข้อมูลทั้งหมดนี้โทรหาเบอร์ฉุกเฉิน
2. โทรหาเบอร์ฉุกเฉิน
เมื่อเพื่อนๆโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน ทั้งเบอร์ตำรวจและรถพยาบาล ก็ให้แจ้งลักษณะของเหตุการณ์และอุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้น ดังที่ได้สังเกตไป รวมถึงเพื่อนๆอาจจะขอความช่วยเหลือจากคนรอบๆ ให้ช่วยโทรหาเบอร์ฉุกเฉินด้วยก็ได้ ยิ่งเพื่อนๆให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์แก่ที่แก่หน่วยฉุกเฉินมากเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่ก็สามารถพร้อมเข้ามาปฏิบัติงานมากขึ้นเท่านั้นครับ โดยให้เพื่อนๆบอกข้อมูลเบื้องต้น เช่นสถานที่เกิดเหตุ จำนวนผู้บาดเจ็บ และรายละเอียดอื่นๆที่เพื่อนๆสังเกตได้จากในเหตุการณ์ รวมถึงบอกจุดสังเกตใกล้ๆที่ทำให้หน่วยฉุกเฉินไปถึงได้อย่างแม่นยำ และพยายามต่อสายหาเจ้าหน้าที่ และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ให้ได้นานที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ขาดการติดต่อและรู้สถานะว่าเจ้าหน้าที่จะมาถึงเมื่อไหร่
ระหว่างรอเจ้าหน้าที่ เพื่อนๆก็สามารถขอความร่วมมือจากคนรอบๆ ให้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ช่วยบอกและส่งสัญญาณให้รถคันอื่นที่ผ่านไปมารู้ว่า ณ ตรงนี้มีอุบัติเหตุรถชนเกิดขึ้น รวมถึงส่งสัญญาณบอกรถคันอื่นให้ชะลอลง เพื่อมิให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครับ
3. เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ก่อนที่เพื่อนๆจะเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุรถชน ให้เพื่อนๆเช็คสถานการณ์ให้ดีเสียก่อนว่าไม่ได้เป็นอันตรายกับตัวเราเอง โดยให้สังเกตบริเวณโดยรอบว่ามีน้ำมันไหลออกมาหรือไม่ มีประกายไฟหรือควันที่ไหน หรือมีสายไฟที่ใดแล่บออกมาบ้าง ถ้าเกิดเพื่อนๆเห็นท่าไม่ดีเช่นนี้ ก็ให้อยู่ห่างๆไว้แล้วรอหน่วยฉุกเฉินเข้ามาช่วยเหลือจะดีกว่า
แต่ถ้าหากเพื่อนๆสามารถเข้าช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย ก็ให้เข้าหาผู้บาดเจ็บ และคอยพูดคุยกับผู้บาดเจ็บว่าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ เพื่อจะได้แก้ไขได้อย่างถูกจุด และไม่เป็นการบังคับผู้บาดเจ็บจนเกินไป
แต่ถ้าหากผู้บาดเจ็บหมดสติ เพื่อนๆก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้เป็นกรณีฉุกเฉิน เพื่อมิให้เกิดความบาดเจ็บต่อร่างกายมากไปกว่านี้ โดยให้ลองเขย่าตัวของผู้บาดเจ็บเบาๆก็จะรู้ว่าเขาหมดสติหรือไม่ รวมถึงให้เพื่อนๆระมัดระวังในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุรถชนด้วย เพราะเขาอาจจะตื่นกลัวจนย้อนกลับมาทำร้ายเพื่อนๆได้เสียเองโดยไม่ได้ตั้งใจ
4. อย่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเว้นแต่จำเป็น
พยายามอย่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เพราะเพื่อนๆไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอุบัติเหตุรถชนที่เกิดขึ้นได้สร้างความเสียหายกับผู้บาดเจ็บตรงส่วนไหน ในบางครั้งความเสียหายอาจเกิดเป็นการช้ำในที่เรามองไม่เห็น เว้นแต่ว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินจริงๆ ที่ผู้บาดเจ็บติดอยู่ในสถานการณ์ไฟไหม้ ก็สามารถช่วยออกมาได้ก่อน หากอยากรู้ว่าควรจะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยดีหรือไม่ ก็ให้ลองถามตัวเองว่า “ถ้าเคลื่อนย้ายแล้วผู้ป่วยจะปลอดภัยขึ้นหรือไม่?” ถ้าคำตอบคือไม่ ก็ให้รอหน่วยฉุกเฉินมาช่วยเคลื่อนย้ายดีกว่าครับ
5. ปฐมพยาบาลหากทำเป็น
หลังจากนั้นให้เพื่อนๆเริ่มทำตามสเต็ปการปฐมพยาบาลระหว่างรอหน่วยฉุกเฉินในอุบัติเหตุรถชน ทั้งการเช็คลมหายใจว่าผู้บาดเจ็บยังหายใจอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ ก็ให้เพื่อนๆ ทำการผายปอดหรือ CPR เพื่อดึงให้ผู้บาดเจ็บกลับมาหายใจอีกครั้ง และพันข้อต่อกระดูกให้ไม่เคลื่อนไหวหากพบอาการบาดเจ็บที่กระดูกหากทำเป็น โดยขอให้เพื่อนๆทำการปฐมพยาบาลก็ต่อเมื่อรู้วิธีทำจริงๆนะครับ อย่าพยายามถ้าหากทำไม่เป็น ให้ลองถามคนรอบๆว่ามีใครทำเป็น หรือไม่ก็รอหน่วยฉุกเฉินมาช่วยเหลือจะดีกว่า
ถ้าหากผู้บาดเจ็บดูมีอาการช็อกจากอุบัติเหตุรถชน โดยจะสงเกตได้ง่ายจากอาการหน้าซีด ก็ให้เพื่อนๆ ช่วยยกเท้าของผู้บาดเจ็บที่นอนอยู่ขึ้นเพื่อให้เลือดไหลมาเลี้ยงที่ส่วนหัว แล้วคลายเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก รวมถึงใช้ลมพัดหรือยาดมเข้าช่วยเพื่อลดอาการช็อค และควรพูดคุยและให้กำลังใจผู้บาดเจ็บเพื่อให้เขารู้สึกปลอดภัย เช่นว่า “หน่วยฉุกเฉินกำลังจะมาถึง และผมจะอยู่กับคุณตรงนี้ ไม่เป็นไรนะ”
6. รอหน่วยฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือ
แล้วเมื่อเพื่อนๆ คอยดูแลผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุรถชนถึงตรงนี้ สิ่งที่เหลือที่สามารถทำได้ก็คือรอให้หน่วยฉุกเฉินเข้ามาทำการปฐมพยาบาลและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต่อไป โดยเพื่อนๆสามารถให้ความร่วมมือกับหน่วยฉุกเฉินได้ด้วยการบอกข้อมูลเบื้องต้นว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น และ ณ ปัจจุบันผู้บาดเจ็บมีอาการเช่นไร เพื่อที่หน่วยฉุกเฉินจะได้ทำการปฐมพยาบาลได้ทุกจุดครับ
ดังนั้น เพื่อนๆจะเห็นได้ว่า อันที่จริงอุบัติเหตุรถชนเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันและสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน การที่เรามีสติอยู่ตลอดเวลา ก็จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการขับขี่และทำให้เราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลถึงตัวเองและผู้อื่นผู้คนโดยรอบ ทำให้การทำประกันรถยนต์ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทำให้เพื่อนๆสามารถอุ่นใจได้มากยิ่งขึ้นบนท้องถนน และถ้าหากเพื่อนๆยังไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อประกันรถยนต์ของอะไรดี ก็สามารถเข้ามาเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ได้ที่เว็บไซต์โกแบร์เลยนะครับ