Nissan LEAF ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยยอดขายใน กรกฎาคม – กันยายน ของปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 187.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมที่ยังคงมีอยู่ แม้ว่า Nissan LEAF จะมีอายุการใช้งานมายาวนานแล้ว แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่ายและประสิทธิภาพที่ดีทำให้มันยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ
ทำไม Nissan LEAF ยังคงเป็นที่นิยม
-
ยอดขาย Nissan LEAF พุ่งสูงขึ้นกว่า 187.5% ใน กรกฎาคม – กันยายน ของปีนี้
- Nissan LEAF ขายได้ 4,514 คัน เพิ่มขึ้นจาก 1,570 คัน ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- Nissan Ariya รถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์รุ่นใหม่มียอดขาย 5,552 คัน เพิ่มขึ้น 23.3% จากปีที่แล้ว
-
ราคาที่เข้าถึงได้
- Nissan LEAF มีราคาเริ่มต้นที่ 28,140 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด
- ด้วยโปรโมชั่นพิเศษในบางพื้นที่ เช่นที่รัฐโคโลราโด ลูกค้าสามารถเช่าซื้อ LEAF ได้ในราคาเพียง 110 ดอลลาร์ต่อเดือน จ่ายล่วงหน้าแค่ 2,396 ดอลลาร์
-
อุปกรณ์และฟีเจอร์ที่ครบครัน
- Nissan LEAF 2024 มาพร้อม Apple CarPlay, Cruise Control, ล้อ อัลลอยขนาด 16 นิ้ว และพอร์ตชาร์จไฟ CHAdeMO
- Nissan Ariya ในรุ่นเริ่มต้นมีราคาเริ่มต้นที่ 39,590 ดอลลาร์ แต่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 63 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระยะทางวิ่งประมาณ 216 ไมล์ ต่อการชาร์จ
Nissan LEAF เจนเนอเรชันที่ 2 จะยุติการผลิตในปี 2025
แม้ว่าปัจจุบัน Nissan LEAF เจนเนอเรชันที่ 2 ยังคงได้รับความนิยม แต่มีรายงานว่า Nissan เตรียมยุติการผลิต LEAF รุ่นนี้ใน ปี 2025 และจะเปิดตัวรุ่นใหม่ใน ฤดูใบไม้ผลิ 2025 คาดว่ารุ่นใหม่จะวางจำหน่ายใน ชื่อรุ่นปี 2026
สรุป: ทำไม Nissan LEAF ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ EV
- ยอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ถึง 187.5% ในกรกฎาคม – กันยายน
- ราคาที่เข้าถึงง่าย ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่า
- โปรโมชั่นเช่าซื้อที่ดึงดูดใจ ในบางรัฐ
- การเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนเจนเนอเรชันใน ปี 2025 ที่จะยิ่งทำให้รุ่นใหม่มีความทันสมัยและตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น
การทำยอดขายที่ดีในไตรมาสที่ 3 ของ Nissan LEAF แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ถึงแม้จะมีคู่แข่งที่ใหม่กว่า เช่น Nissan Ariya แต่ LEAF ยังคงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่าและเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง
แหล่งที่มา insideevs