ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วว่ารถซูเปอร์คาร์มีราคาแพง แต่ลูกค้าของ McLaren จริงๆ ต้องจ่ายเงินกันเท่าไหร่เพื่อซื้อรถสมรรถนะสูงแต่จำนวนการผลิตน้อย? ในกรณีของ McLaren ตัวเลขมหัศจรรย์นั้นคือ 312,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 10.1 ล้านบาท
CEO Michael Leiters เปิดเผยตัวเลขนี้ในการให้สัมภาษณ์กับ Automotive News Europe โดยเขาต้องการที่จะให้ตัวเลขนี้เพิ่มสูงขึ้นและเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะในปี 2023 ที่ผ่านมา McLaren ขาย “รุ่นที่ราคาไม่แพงอย่าง” Artura มากกว่า แต่ในปี 2024 นี้ รุ่น 750S ที่มีราคาสูงกว่าเป็นที่นิยม โดยรุ่น 720S ทั่วไปจะขายในราคา 250,000-260,000 ปอนด์ ประมาณ 325,000-338,000 เหรียญสหรัฐ (11.5 ล้านบาท)
Michael Leiters กล่าวว่าบริษัทอาจจะเพิ่มราคาขายของรถได้ แต่หากไม่มีความแตกต่างในตัวสินค้าก็จะไม่เกิดความหมาย “คุณอาจเพิ่มราคา แต่ถ้าไม่มีสาระสำคัญของผลิตภัณฑ์ก็จะไม่เป็นที่น่าสนใจ”
ทางบริษัทมีรุ่น “Ultimate Series” ที่ให้พื้นที่ราคาสูงกว่ารุ่น 750S อย่าง Solus GT, Speedtail, Senna, Elva และรุ่นต่อไป P1 ที่มีรหัสโครงการว่า P18 ซึ่งจะมีเครื่องยนต์ V8 ใหม่ทั้งหมดกำลังมากกว่า 1,000 แรงม้า และจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในปี 2026 ในราคาประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
แม้ว่า McLaren จะไม่ตั้งใจจำกัดการผลิต แต่พวกเขาต้องการขายรถน้อยลงแต่มีกำไรมากขึ้น ซึ่งตรงกับแนวคิด “น้อยแต่มาก” ที่คู่แข่งอย่าง Ferrari ทำได้ดีมาก ทั้งนี้ แม้จะมุ่งเน้นในเรื่องของความหายาก แต่ McLaren ก็ยังคงมีแผนขยายตัวเองโดยอาจจะมีรุ่น 2+2 หรือแม้แต่รถ SUV ด้วย
Cr.motor1