เมื่อเร็วๆ นี้ Hyundai โชว์ฝีมือการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพ ด้วยการทำลายสถิติการแข่งขันรถไฟฟ้าประเภทดัดแปลงที่ Tesla ครองมาก่อนหน้านี้ในการแข่งขันไพค์พีคอินเตอร์เนชันแนลฮิลลค์ลาย์ม์ ซึ่งเป็นการแข่งขันปีนเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
แม้ว่า Hyundai จะใช้เวลาเพียง 6 เดือนในการพัฒนารถไอออนิค 5 เอ็น สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ แต่พวกเขาก็ได้เรียกทีมงานมืออาชีพมาช่วยกันทำงาน รวมถึงนักแข่งระดับแนวหน้าของวงการ เดนี ซอร์โด นักแข่งรถรายการแรลลี่ชาวสเปน และแรนดี้ พ็อบสท์ ตำนานนักแข่งสนามของสหรัฐฯ
การแข่งขันไพค์พีคอินเตอร์เนชันแนลฮิลลค์ลาย์ม์นั้นถือเป็นการแข่งขันปีนเขาที่มีความเสี่ยงอันตรายสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก โดยผู้แข่งขันจะต้องขับรถด้วยความเร็วสูงสุดตลอดระยะทาง 12.42 ไมล์ ขึ้นไปบนภูเขาที่มีความสูงถึง 14,115 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล บนเส้นทางที่แทบไม่มีรั้วกั้นป้องกันอันตราย จนทำให้มีการห้ามรถจักรยานยนต์เข้าร่วมแข่งขันเนื่องจากนักแข่งเสียชีวิตบ่อยครั้งเกินไป
ซอร์โดเองก็ยอมรับว่าเขาไม่ได้มีโอกาสได้ทดสอบวิ่งรถบนเส้นทางทั้งหมดก่อนวันแข่งขัน และรถไอออนิค 5 เอ็น ที่เขาขับก็ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่เขาก็มั่นใจว่ารถคันนี้จะสามารถทำผลงานได้ดี
Hyundai ได้ดึงทีมงานจากบริษัท ไบรอัน เฮอร์ตา ออโตสปอร์ต (BHA) ซึ่งเป็นผู้ดูแลโปรแกรมการแข่งขัน IMSA TCR ของพวกเขามาช่วยงาน พร้อมกับวิศวกรจากสำนักงานใหญ่ในเกาหลีใต้ ในการปรับแต่งรถยนต์ไอออนิค 5 เอ็น ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
รถยนต์สองคันที่ใช้ในการแข่งขันประเภทดัดแปลงนั้น ได้รับการเพิ่มกำลังสูงสุดเป็น 680 แรงม้า เพิ่มขึ้น 40 แรงม้าจากรุ่นมาตรฐาน เพื่อให้สามารถวิ่งด้วยกำลังเต็มที่ตลอดการปีนเขาโดยไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเกินพิกัด ซึ่งเป็นจุดอ่อนของรถTesla ที่ครองสถิติเดิม
นอกจากนี้ รถยนต์ยังได้รับการติดตั้งชุดแอร์โรที่ออกแบบโดยบริษัท Verus Engineering ซึ่งเป็นบริษัทด้านพลศาสตร์อากาศยานจากอินเดียนาโพลิส ประกอบด้วยสปอยเลอร์หน้าและครีบท้ายขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มแรงดันดาวน์ฟอร์ซและช่วยควบคุมรถให้วิ่งได้อย่างมั่นคงบนเส้นทางคดเคี้ยว
– ยางสลิกขนาด 300 มม. จากโยโกฮาม่า
– ล้อแม็กซ์กระทะเบรก 11 นิ้ว – ชุดเบรกจาก Alcon แทนชุดเบรกมาตรฐาน
– น้ำหนักเบากว่ารุ่นมาตรฐานเพียง 150 ปอนด์ที่ 4,650 ปอนด์
แม้จะมีข้อจำกัดด้านเวลาในการพัฒนา แต่ทีมงานของ BHA ก็มั่นใจว่ารถคันนี้จะสามารถทำเวลาวิ่งได้ต่ำกว่า 10 นาทีบนเส้นทางไพค์พีค และในการทดสอบก่อนหน้าวันแข่งขัน พวกเขาก็พบว่ารถยังมีพลังงานแบตเตอรี่เหลืออยู่มากถึง 60% หลังจากวิ่งจบเส้นทาง
ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของรถยนต์ไฟฟ้า
แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ ทั้งการชนของพอล แดลเลนบาค นักแข่งคนหนึ่งที่ทำให้รถคันหนึ่งเสียหายจนไม่สามารถแข่งได้ และการถอนตัวของโรบิน ชูท นักแข่งผู้เคยคว้าแชมป์ที่ไพค์พีคมาแล้ว แต่ในที่สุดเดนี ซอร์โดก็สามารถคว้าชัยชนะด้วยเวลา 9 นาที 30.852 วินาที ทำลายสถิติเดิมของรถ Tesla ที่ 9 นาที 54.901 วินาที ไปถึง 25 วินาทีเลยทีเดียว
ชัยชนะในครั้งนี้ของ Hyundai นับเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถแข่งขันได้อย่างสูสีกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกอย่างแท้จริง
ถึงแม้ Hyundai จะไม่ได้ยืนยันว่าจะกลับมาแข่งขันที่ไพค์พีคในปีหน้าหรือไม่ แต่หากพวกเขาตัดสินใจกลับมา ด้วยประสบการณ์และข้อมูลที่ได้รับจากการแข่งขันครั้งนี้ เราอาจจะได้เห็นสถิติใหม่ที่น่าทึ่งยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้
Cr.insideevs