เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประกาศรายชื่อผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Charge Point Operators) ที่รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงแบบ DC Charge เพื่อเป็นข้อมูลให้กับลูกค้า
ที่ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยแนะนำ
ผู้ให้บริการอิสระจำนวน 5 บริษัท ซึ่งมีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าครอบคลุมกว่า 1,550 แห่ง และมีจุดชาร์จที่มีหัวชาร์จประเภท DC CCS2 รวมมากกว่า 2,500 หัวจ่าย ทั่วประเทศ* ดังมีรายนามต่อไปนี้
รายชื่อผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่แนะนำสำหรับลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์
- EA Anywhere
- PEA VOLTA
- RÊVERSHARGER
- EVolt Thailand
- EleX by EGAT
สำหรับการชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) นอกจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
จากแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในรุ่น EQB 250, EQE 350 SUV, EQE 53, EQS 450+ และ EQS 500รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในรุ่น C 350 e (W206), E 350 e (W214), S 580 e (V223), Maybach S 580 e (W223), GLC 350 e (X254), GLC 350 e Coupe (C254) และ GLE 350 de (V167) ยังสามารถรองรับการชาร์จในรูปแบบนี้ได้ด้วยเช่นกัน โดยถือเป็นความตั้งใจในการพัฒนาแบตเตอรี่แรงดันสูงของแบรนด์ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การขับขี่และความสะดวกของผู้ที่ใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ ลูกค้าทุกคนที่ใช้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในรุ่นที่กำหนดจะได้รับสิทธิเพิ่มเติมสำหรับการรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูงนานสูงสุดถึง 10 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทาง Facebook: Mercedes-Benz Thailand IG: @MercedesBenzThailand และ LINE: @mercedesbenzth
# # #
เกี่ยวกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นส่วนหนึ่งของบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป เอจี ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบธุรกิจทั่วโลกของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 170,000 คนทั่วโลก โดยมี โอล่า คัลเลนเนียส
เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายรถยนต์ รถตู้ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ นอกจากนั้น ยังมีเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำของโลกในด้านยานยนต์ไฟฟ้าและซอฟต์แวร์รถยนต์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และแบรนด์ย่อย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี เมอร์เซเดส-มายบัค จี-คลาส
และแบรนด์สมาร์ท โดยมี Mercedes me เป็นแบรนด์ที่นำเสนอการเข้าถึงบริการด้านดิจิทัลจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์โดยสารระดับลักชัวรีรายใหญ่ที่สุดของโลก ในปี 2565 บริษัทฯ จำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลราว 2 ล้านคัน และรถตู้เกือบ 415,300 คัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ขยายเครือข่ายการผลิตใน 2 กลุ่มธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตราว 35 แห่งใน 4 ทวีป ควบคู่ไปกับแนวทางการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาเครือข่ายการผลิตแบตเตอรี่ของตัวเองทั่วโลกใน 3 ทวีป
การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนล้วนมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งทั้งต่อกลยุทธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์และต่อบริษัท สำหรับ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอจี ความยั่งยืนหมายถึงการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายในระยะยาว ทั้งลูกค้า พนักงาน นักลงทุน พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมโดยรวม โดยอาศัยพื้นฐานของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของกลุ่ม
เมอร์เซเดส-เบนซ์ กรุ๊ป ซึ่งมุ่งรับผิดชอบต่อผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และสังคม จากกิจกรรมทางธุรกิจต่าง ๆ ของบริษัท และให้ความสำคัญต่อห่วงโซ่คุณค่าโดยรวม
# # #
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย
ญาณินี กสิธรานนท์ อีเมล [email protected] เบอร์ติดต่อ +6685-953-3330
ศุภวิชญ์ ธัชชนะชัย อีเมล [email protected] เบอร์ติดต่อ +6684-555-969