fbpx
รวมฟีเจอร์ไฮไลต์ที่ทำให้ Hyundai IONIQ 5 ครองใจคนทั่วโลก

รวมฟีเจอร์ไฮไลต์ที่ทำให้ Hyundai IONIQ 5 ครองใจคนทั่วโลก

เปิดตัวไปแล้วอย่างยิ่งใหญ่ใน MOTOR EXPO 2023 สำหรับ “IONIQ 5 รถยนต์ไฟฟ้าภายใต้เครือฮุนได” ที่คว้ารางวัลจากเวทีระดับโลกมาแล้วจากนานาประเทศ โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากแบรนด์เกาหลีใต้ที่มาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ สมบูรณ์แบบด้วยสมรรถนะการขับขี่ ดีไซน์ที่ทันสมัยแต่แฝงกลิ่นอายเรโทรไว้อย่างลงตัว และสิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือฟีเจอร์การขับขี่อัจฉริยะ พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานเทียบแบรนด์ยุโรป เมื่อผนวกกับบริการหลังการขายบนมาตรฐานของฮุนได IONIQ 5 จึงเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจมากที่สุดของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ณ เวลานี้

รวมฟีเจอร์ไฮไลต์ที่ทำให้ IONIQ 5 ครองใจคนทั่วโลก

  • ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่ผสานเสน่ห์รถคลาสสิกในหนึ่งเดียว

การออกแบบรูปลักษณ์ของ IONIQ 5 เป็นฝีมือของ จิออเกตโต จูเจียโร่ (Giorgetto Giugiaro) นักออกแบบยานยนต์ชื่อดังชาวอิตาลีที่เคยร่วมงานกับฮุนได และกลับมาปลุกตำนานรถยนต์คลาสสิกอันโด่งดังให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในโลกยานยนต์ ผ่านการนำดีไซน์รุ่นคลาสสิกอย่าง Hyundai Pony ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ส่งออกทั่วโลกในปี 1975 ผสานกับรถยนต์ต้นแบบ Hyundai 45 ในปี 2019 ทำให้ IONIQ 5 เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยรูปทรงที่เพรียวบางพร้อมเส้นสายสบายตา ผสานความเฉียบคมจากแนวสันด้านข้าง สื่อถึงความล้ำหน้าแห่งอนาคตของพลังงานไฟฟ้า โดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าทรง Clamshell ที่เปิดยกขึ้นได้แบบไร้รอยต่อกับตัวถัง มือจับประตูด้านข้างออกแบบมาให้ซ่อนเก็บอย่างมิดชิด ผสานดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Parametric Pixel LED ทุกองค์ประกอบทำให้ IONIQ 5 คือสุดยอดงานดีไซน์ที่ผสานความล้ำสมัย เข้ากับแบบฉบับคลาสสิกได้อย่างสวยงามลงตัว

  • การออกแบบห้องโดยสารที่หรูหราสง่างามบนพื้นฐานความยั่งยืน

สัมผัสได้ถึงความพรีเมี่ยมในห้องโดยสาร ที่สง่างามและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งยังให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพราะห้องโดยสารของ IONIQ 5 ถูกออกแบบใหม่ภายใต้แนวคิด Living Space เพื่อให้รู้สึกสบายเหมือนอยู่ในบ้าน นอกจากนั้น วัสดุตกแต่งล้วนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น แผงประตูเคลือบด้วยสีชีวภาพที่สกัดจากน้ำมันพืช เบาะนั่ง ผ้าบุหลังคา และพรมหุ้มด้วยวัสดุชีวภาพที่ผลิตจากอ้อยและข้าวโพด วัสดุหนังที่ใช้ตกแต่งภายใน เคลือบด้วยน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์แทนสารเคมี แม้กระทั่งตะเข็บด้ายที่ใช้กับเบาะนั่งและที่วางแขนข้างประตู ยังผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล สะท้อนถึงแนวคิดเพื่อความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่เพียงแต่พัฒนาขึ้นบนแนวคิดรักษ์โลกเท่านั้น แต่ IONIQ 5 ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความสะดวกสบายในห้องโดยสารขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอระบบสัมผัส สำหรับควบคุมเครื่องเสียงและความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเชื่อมต่ออุุปกรณ์แบบ Bluetooth และระบบเครื่องเสียงพรีเมียมจาก BOSE™ with External Amplifier ให้เสียงเต็มพลังด้วยลำโพง 8 ตัวรอบทิศทาง (เฉพาะรุ่น) รวมถึงฟีเจอร์การเชื่อมต่อออนไลน์อีกมากมาย ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายและสมบูรณ์แบบ

  • ชูสมรรถนะและคุณภาพการขับขี่เหนือชั้น พร้อมสองทางเลือก

IONIQ 5 สมบูรณ์แบบด้วยระบบวิศวกรรมและฟีเจอร์อัจฉริยะ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทำความเร็วสูงสุดถึง 185 กม./ชม. มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-Ion โดยในรุ่น Premium มีความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 58 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 8.5 วินาที และมีระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 384 กม. ตามมาตรฐาน WLTP

เหนือกว่าทั้งสมรรรถนะและระยะทางขับขี่ในรุ่น Exclusive โดยความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงเพิ่มเป็น 72.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง กำลังสูงสุด 217 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.4 วินาที และมีระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าสูงสุด 481 กม. ตามมาตรฐาน WLTP

ไฮไลต์ที่สร้างความแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป คือทุกรุ่นติดตั้ง ระบบชาร์จเร็ว 350 kW Ultra-fast Charging สามารถชาร์จไฟจาก 10 – 80% ได้ภายใน 17 นาทีเท่านั้น IONIQ 5 ขจัดความกังวลใจในการเดินทางไกล และมอบความสะดวกสบายได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่น ๆ ในท้องตลาดขณะนี้

  • แตกต่างอย่างเหนือชั้นด้วยระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ Hyundai SmartSense

นอกจากฟีเจอร์ด้านระบบขับเคลื่อน ระบบช่วยขับอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยขั้นสูงของ IONIQ 5 ยังมีมาตรฐานการทำงานเทียบเท่าแบรนด์รถยุโรป นั่นคือ “Hyundai SmartSense” ซึ่งมีทั้งระบบรักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Keeping Assist: LKA) ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ (Smart Cruise Control with Stop and Go) ระบบเตือนและเบรกฉุุกเฉินอัตโนมัติทางแยก (Forward Collision Avoidance Assist Junction Turning: FCA-JT) ระบบควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Collision- Avoidance Assist: BCA) รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา (Surround View Monitor) ระบบกล้องมองภาพมุมอับสายตา (Blind Spot View Monitor: BVM) และอีกมากกว่า 10 รายการ ซึ่งล้วนเป็นฟังก์ชันที่พบได้เฉพาะในแบรนด์ชั้นนำจากยุโรป แต่เทคโนโลยีทั้งหมดนี้เป็นสเปกมาตรฐานใน IONIQ 5 ทุกรุ่น

เพราะการลงทุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน โดยเฉพาะในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ย่อมไม่ใช่แค่ตอบโจทย์เรื่องการเดินทางเท่านั้น หากเป็นการซื้อความมั่นใจทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ดีไซน์ที่โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ ไปจนถึงความสะดวกในการใช้งานจริง ในระดับราคาที่คุ้มค่าสูงสุด ซึ่งHyundai IONIQ 5 อัดแน่นด้วยคุณภาพในทุกแง่มุม โดยเปิดราคาขายเริ่มต้นในไทยที่ 1,699,000บาท นับว่าเป็นระดับราคาที่คุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงฟีเจอร์ต่างๆ รวมถึงบริการหลังการขายบนมาตรฐานของฮุนได พร้อมให้คุณเดินทางสู่อนาคตแห่งพลังงานไฟฟ้า ได้อย่างเชื่อมั่นและยั่งยืน

บทความที่น่าสนใจ

Mercedes-Benz GLE 300 d 4MATIC AMG Dynamic ใหม่ พร้อมขายในไทยแล้วราคา 6.06 ล้านบาท

Peng

เอสยูวีเรือธงคันใหม่ของ Lexus ที่จะเปิดตัวในปีนี้ คงต้องงดงามแบบในภาพนี้เท่านั้น

idiot

2022 Ford Ranger Splash Edition คืนชีพชื่อเก่าในแพ็คเกจเสริมใหม่สีจี๊ดได้ใจ

Peng

This website uses cookies to improve your experience. We'll assume you're ok with this, but you can opt-out if you wish. Accept Read More

Privacy & Cookies Policy