Aston Martin แบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงจากประเทศอังกฤษ ฉลองครบรอบ 110 ปีด้วยการเปิดตัวรถสปอร์ตรุ่นพิเศษที่มีชื่อว่า Valour โดยรถคันนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 ที่จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
สำหรับ Aston Martin Valour เป็นรุ่นรถพิเศษที่ไม่ได้สร้างขึ้นจากรถยนต์ในไลน์อัปของแบรนด์แต่อย่างใด โดยรถคันนี้มีการออกแบบในสไตล์ “เรโทร” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถ V8 Vantage รุ่นออริจินัลที่เปิดตัวในปี 1977
ถึงแม้ว่ารูปภาพที่ทางแบรนด์เปิดเผยออกมานั้น จะยังไม่เห็นสัดส่วนของตัวรถที่ชัดเจนมากนัก แต่จะได้เห็นได้ว่ารถคันนี้มาพร้อมกับชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ในหลายๆจุด โดดเด่นด้วยชุดไฟหน้าทรงกลม ฝากระโปรงหน้าที่มาพร้อมกับช่องระบายอากาศแบบ “เกือกม้า”
เมื่อขยับมาด้านข้างจะพบกับล้อขนาด 21 นิ้วลวดลายรังผึ้งที่ดูแปลกตา รัดด้วยยาง Michelin Pilot Sport S 5, ชุดเบรกคาร์บอนเซรามิก พร้อมด้วยแผงระบายอากาศบริเวณซุ้มล้อที่ดูเป็นเอกลักษณ์
ด้านท้ายของตัวรถ จะมาพร้อมกับดีไซน์แบบ Kammback ซึ่งส่วนท้ายของตัวรถจะลาดลงก่อนที่จะเชิดขึ้นในช่วงปลายสุด โดยดีไซน์แบบนี้นิยมใช้ในรถยนต์ยุค 1970 – 1980 ที่จะช่วยลดแรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ ชุดไฟท้ายจะได้เป็นแบบ LED ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีการทำลวดลายเป็นตะแกรง เสริมด้วยดิฟฟิวเซอร์ที่ดูโดดเด่นพร้อมด้วยท่อไอเสียแบบ 3 ท่อบริเวณตรงกลาง
ภายในห้องโดยสารจะดูคล้ายคลึงกับ Aston Martin Vantage รุ่นปัจจุบัน แต่มีการปรับปรุงคอนโซลกลางใหม่ทั้งหมด ให้สามารถใส่คันเกียร์ธรรมดาที่มาพร้อมกับหัวเกียร์ทรงกลมที่ทำจากไม้สุดคลาสสิก รวมถึงช่องแอร์ก็ได้รับการเปลี่ยนดีไซน์ด้วยเช่นกัน ตัวเบาะโดยสารจะได้เป็นเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมด้วยวัสดุบุนุ่มที่มีลวดลายแบบ Woollen Tweed ซึ่งเป็นลายแบบเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง DBR1 ซึ่งสามารถคว้าชัยในการแข่งขัน Le Mans ในปี 1959
มาถึงขุมพลังของ Aston Martin Valour ที่ต้องบอกเลยว่าทางผู้ผลิตให้มาแบบเต็มสูบ เพราะได้เครื่องยนต์แบบ V12 ขนาดความจุ 5.2 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 705 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 753 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะพร้อมด้วยเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป
สำหรับ Aston Martin Valour จะถูกผลิตขึ้นมาในจำนวนจำกัดเพียง 110 คันในโลกเท่านั้น และจะพร้อมส่งมอบให้กับผู้ที่สั่งจองในช่วงปลายปี 2023 โดยในขณะนี้ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการแต่เชื่อได้เลยว่าราคาค่าตัวของรถคันนี้น่าจะโหดอยู่พอสมควร
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : carscoops.com / aston martin / coolmaterial.com