Audi เดินหน้าขยายไลน์อัปรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในยุโรปด้วยการเปิดตัว 2026 Audi A6 Plug-In Hybrid รุ่นใหม่ทั้งแบบซีดานและแวกอน แม้จะยังไม่เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ แต่รุ่นใหม่นี้ก็ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ โดยเฉพาะด้านแบตเตอรี่ที่เพิ่มความจุสุทธิเป็น 20.7 kWh เพิ่มขึ้นถึง 45% จากรุ่นก่อนหน้า
วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุด 111 กม. รองรับการใช้งานประจำวัน
ระยะทางในการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode) สามารถทำได้ไกลสุดถึง 106 กม. (66 ไมล์) ในโหมดการขับขี่แบบผสมผสาน (combined cycle) และหากขับในเมืองแบบเบา ๆ รุ่นซีดานสามารถวิ่งได้ไกลถึง 111 กม. (69 ไมล์) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องยนต์เลย
ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด 2 ระดับแรงม้า พร้อมอัตราเร่งเร้าใจ
Audi A6 PHEV มีให้เลือก 2 รุ่นพละกำลัง:
-
รุ่นพื้นฐานให้กำลัง 295 แรงม้า / 332 lb-ft (450 Nm) เร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที
-
รุ่นแรงพิเศษให้กำลัง 362 แรงม้า / 369 lb-ft (500 Nm) เร่ง 0–100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที
หากยังไม่พอใจในความแรง ยังมีรุ่น V6 mild-hybrid ที่ทำเวลาได้เพียง 4.7 วินาที ส่วนรุ่น S6 และ RS6 ที่จะเปิดตัวตามมา จะเร็วยิ่งกว่านั้น
ระบบขับเคลื่อน Quattro พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 141 แรงม้า
ระบบขับเคลื่อนของ A6 PHEV ใช้เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด S Tronic พร้อมระบบ Quattro ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 141 แรงม้า ฝังอยู่ภายในชุดเกียร์ และสามารถปล่อยแรงบิดสูงสุดได้ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ
ชาร์จไฟเต็มภายใน 2.5 ชั่วโมง ด้วยกำลังไฟ AC 11 kW
Audi เพิ่มกำลังการชาร์จไฟ AC เป็น 11 kW ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความสะดวกในชีวิตประจำวัน
เงียบกว่าเดิม 30% ด้วยเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน
Audi ปรับปรุง A6 ใหม่ให้เงียบยิ่งขึ้น ด้วยฉนวนกันเสียงที่เพิ่มขึ้น 30% พร้อมกระจกกันเสียงรอบคัน ซีลประตูใหม่ และโฟมกันเสียงในยางสำหรับรุ่นล้อ 19 นิ้วขึ้นไป อีกทั้งยังปรับบูชเครื่องยนต์และเกียร์ใหม่ เพื่อลดเสียงเครื่องกลโดยรวม
ราคาเริ่มต้นในเยอรมนีและการวางจำหน่าย
ในเยอรมนี Audi A6 PHEV รุ่น Sedan เริ่มต้นที่:
-
€65,800 สำหรับรุ่น 295 แรงม้า
-
€68,300 สำหรับรุ่น 362 แรงม้า (มาพร้อมชุดแต่ง S Line, ล้อใหญ่ขึ้น, ช่วงล่างสปอร์ต และคาลิเปอร์เบรกสีแดง)
รุ่น Avant (แวกอน) เริ่มต้นที่:
-
€75,050 และ €77,550 ตามลำดับ
Audi จะเริ่มส่งมอบรถในยุโรปช่วงฤดูร้อนนี้
สรุป: หากคุณกำลังมองหารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหรูหรา ประสิทธิภาพดี วิ่งไฟฟ้าได้ไกล Audi A6 Plug-In Hybrid รุ่นใหม่นี้ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ ทั้งในด้านสมรรถนะ ความเงียบ และความประหยัดพลังงาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวข้ามจากดีเซลสู่ยุคใหม่ของการขับขี่อย่างมีสไตล์