ล่าสุด มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด ได้ประกาศเปิดตัว Mazda 2 รุ่นปรับโฉม Minorchange ประจำปี 2023 ที่ในคราวนี้มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอก – ภายใน รวมถึงออปชั่นและอุปกรณ์ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการนำเสนอรุ่นย่อยใหม่และรุ่นพิเศษ Rookie Drive และ Clap Pop
เริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกของ New Mazda 2 ที่ต้องบอกเลยว่าถูกปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควร โดยการตกแต่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 สไตล์ดังนี้
SPORT DESIGN (เฉพาะรุ่น 1.5 XD / XDL)
เริ่มกันที่การตกแต่งแบบ Sport Design จะมาพร้อมกับชุดกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ เสริมด้วยกระจกมองข้างและหลังคาสีดำพร้อมกับล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วดีไซน์สปอร์ต ภายในห้องโดยสารถูกปรับให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะหนังสีดำสลับกับผ้า Grand Luxe Suede พร้อมด้วยการเดินตะเข็บด้วยด้ายสีแดง เสริมด้วยกรอบช่องแอร์สีแดง
New Wave DESIGN (เฉพาะรุ่น 1.3 C / 1.3 C Sport)
ข้ามฝั่งมาที่ New Wave DESIGN ซึ่งจะดูแตกต่างกับ SPORT DESIGN อย่างชัดเจน โดยจะมาพร้อมกับการตกแต่งที่ดูสดใสมีชีวิตชีวามากกว่าด้วยชุดกันชนหน้าและกระจังหน้าใหม่ และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ ที่เน้นความสดใสแตกต่าง ภายในห้องโดยสารมาพร้อมแผงคอนโซลหลากสี ไม่ว่าจะเป็น สี Pure While สี Mirror Black และ สี Gross Light Blue ที่ถูกจับคู่กับสีภายนอกและดีไซน์ของล้อที่แตกต่างหลากหลายได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้มาสด้ายังได้นำเสนอรุ่นย่อยพิเศษอีก 2 รุ่น ได้แก่ Rookie Drive และ Clap Pop
- Rookie Drive จะมาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีขาว หลังคาสีขาวหรือสีดำที่ออกแบบแตกต่างตามสีภายนอก พร้อมการตกแต่งด้วยสีส้ม Racing Orange บนชุดสปอยเลอร์หลัง ชุดครอบกระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งกันชนหน้าและกันชนหลัง รวมถึงฝาครอบล้อ พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ
- Clap Pop เพิ่มความสปอร์ตสุดคูล ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ มาพร้อมกระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาวและหลังคาสีขาว เพื่อเพิ่มความแตกต่างที่โดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ Clap Pop ตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ที่ต้องการรถที่ถ่ายทอดบุคลิกที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร
สำหรับขุมพลังของ Mazda 2 ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร Skyactiv-G และเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 Skyactiv-D ซึ่งมีสเปคเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร Skyactiv-G ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
- เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร Skyactiv-D ให้พละกำลังแรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
ออปชั่นความปลอดภัยของ New Mazda 2 ถูกอัปเกรดให้ดีมากยิ่งขึ้นพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างครบครันดังนี้
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) มีในทุกรุ่นย่อย
- ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP มีในทุกรุ่นย่อย
- ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus มีในทุกรุ่นย่อย
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และปรับระดับแบบอัตโนมัติ มีในทุกรุ่นย่อย
- กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน มีในทุกรุ่นย่อย
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC)
- อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
- ระบบป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA
- เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด
- กล้องมองหลัง
- หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว และปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
- ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport paddle shift
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)
- ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
- พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
- พนักพิงเบาะด้านหลัง สามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40
- กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย พร้อมเซ็นทรัลล็อก
สำหรับ New Mazda 2 ใหม่จะมาพร้อมกับสีตัวถังใหม่ 2 สี และสีตัวถังเดิม 7 สีดังนี้
- สีใหม่ สีฟ้า แอร์ สตรีม บลู (Air Stream Blue)
- สีใหม่ สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray)
- สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
- สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
- สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
หมายเหตุ: สีขาว Snowflake White Pearl เพิ่ม 7,000 บาท, สีเทา Machine Gray เพิ่ม 10,000 บาท, สีแดง Soul Red Crystal เพิ่ม 12,000 บาท
ราคาจำหน่ายของ Mazda 2 รุ่น Minorchange ปี 2023 จะมีราคาดังต่อไปนี้
เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร SKYACTIV-G
- รุ่นย่อย 1.3 C – ราคา 599,000 บาท
- รุ่นย่อย 1.3 S (รุ่นย่อยใหม่) – ราคา 680,000 บาท
- รุ่นย่อย 1.3 SP – ราคา 730,000 บาท
- รุ่นย่อย Rookie Drive Sports (รุ่นย่อยพิเศษ) – ราคา 662,000 บาท
- รุ่นย่อย Clap Pop Sports (รุ่นย่อยพิเศษ) – ราคา 647,000 บาท
เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร SKYACTIV-D
- รุ่นย่อย XD – ราคา 720,000 บาท
- รุ่นย่อย XDL – ราคา 830,000 บาท